เจ้าหน้าที่อิหร่านกำลังนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันเสาร์ หลังหน่วยเลือกตั้งปิดลงคะแนนเมื่อเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากมีการขยายเวลาลงคะแนนถึง 3 ครั้งรวมเพิ่มอีก 6 ชั่วโมงจากเวลาปกติ
สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน รายงานผลการนับคะแนนเบื้องต้นว่า ซาอีด จาลิลิ ผู้สมัครประธานาธิบดีสายอนุรักษ์นิยม และมาซูด เปเซชเคียน ผู้สมัครสายปฏิรูป ผลัดกันมีคะแนนนำ และมีแนวโน้มว่า ไม่มีใครชนะด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่ง ทำให้คาดว่า ทั้งสองคนจะต้องแข่งขันกันอีกในรอบสองในวันที่ 5 กรกฎาคม
จากจำนวนบัตรคะแนนเลือกตั้งที่นับแล้วกว่า 14 ล้านใบ พบว่า เปเซชเคียน อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขได้ 5.9 ล้านเสียง และจาลิลิ อดีตผู้แทนเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ ได้ 5.5 ล้านเสียง ส่วนผู้สมัครอีก 2 คน ได้ 1.89 ล้านเสียง และอีกกว่า 111,900 เสียงตามลำดับ
การเลือกตั้งครั้งนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 61 ล้านคน จะต้องเลือกระหว่างผู้สมัครที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม 3 คน และผู้สมัครหัวปฏิรูปคนเดียว ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งจะอยู่ในระดับต่ำ หลังมีกระแสเรียกร้องให้บอยคอตต์การเลือกตั้งที่ถูกมองว่า ไม่ใช่การแข่งขันที่แท้จริง
การเลือกตั้งจัดขึ้นก่อนกำหนดหลังประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ถึงแก่อสัญกรรมจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อเดือนที่แล้ว และจัดขึ้นในช่วงที่ประเทศมีอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงเกือบ 40% และภูมิภาคตะวันออกกกลางกำลังตึงเครียดจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลัง ได้แก่ ฮามาสในฉนวนกาซา และเฮซบอลลาห์ในเลบานอน รวมถึงแรงกดดันจากชาติตะวันตกที่เพิ่มขึ้นต่อโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน
แม้ผลเลือกตั้งไม่น่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ในอิหร่าน แต่อาจมีอิทธิพลต่อการสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งแทน อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุด วัย 85 ปี