สื่อสหรัฐฯ เปิดแชทรั่วเรื่องโจมตีเยเมน สวนกลับทำเนียบขาว

นิตยสาร ดิ แอตแลนติกของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานชิ้นใหม่ของเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการบริหารในวันพุธ (26 มีนาคม) เกี่ยวกับข้อความการสนทนาในระหว่างการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเป็นข้อมูลใหม่เพิ่มเติมจากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์

โกลด์เบิร์กได้รับรู้ข้อมูลจากกรุ๊ปแชททางแอปพลิเคชั่นส่งข้อความแบบเข้ารหัส ซิกนัล (Signal) หลังเขาได้รับการดึงเข้ากลุ่มโดยไม่ตั้งใจโดยไมค์ วอลตซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ โดยในกลุ่มมีเจ้าหน้าที่ 18 คน ซึ่งรวมถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ, พีท เฮ็กเซท รัฐมนตรีกลาโหม และเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี และหารือกันเรื่องแผนโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนในช่วงเพียง 2 ชม. ก่อนการโจมตีระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม

ข้อความสำคัญที่สุดที่เผยแพร่ใหม่เผยให้เห็นการส่งข้อความอัปเดทแบบเรียลไทม์ขณะกองทัพสหรัฐฯ กำลังโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่อกลุ่มฮูตีในเยเมน ซึ่งข้อความนี้ส่งโดยเฮ็กเซท รัฐมนตรีกลาโหม โดยระบุเวลาที่โจมตีและชนิดอาวุธที่ใช้

โกลด์เบิร์กตัดสินใจเผยแพร่ข้อมูลส่วนที่ยังไม่ได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ยืนยันว่า ข้อมูลที่แชร์ในกรุ๊ปแชทไม่มีข้อมูลชั้นความลับ และพยายามไม่ให้ความสำคัญกับข้อความที่ถูกแชร์โดยบังเอิญ รวมทั้งยังโจมตีเรื่องความน่าเชื่อถือของเขา จึงอยากให้ประชาชนได้เห็นข้อความแชทและสรุปด้วยตัวเอง

แต่โฆษกทำเนียบขาวโต้แย้งว่า บทความล่าสุดของ ดิ แอตแลนติก เป็นบทความที่เขียนโดยพวกเกลียดชังทรัมป์

ก่อนหน้านั้นวอลตซ์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอังคาร โดยกล่าวแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าเขาเป็นคนสร้างกลุ่มแชท แต่ไม่ได้อธิบายว่า โกลด์เบิร์กเข้าไปอยู่ในกลุ่มได้อย่างไร และบอกเพียงว่า การรั่วไหลของข้อมูลเป็นเรื่องน่าอับอาย และเบอร์โทรศัพท์ของโกลด์เบิร์กไม่ได้อยู่ในมือถือของเขา

ส่วนทรัมป์ บอกเมื่อวันอังคารด้วยว่า ข้อมูลที่หลุดออกมาไม่ได้เป็นข้อมูลชั้นความลับ และบอกด้วยว่า เขาไม่มีเจตนาลงโทษใคร หรือห้ามใช้ซิกนัล หรือ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาขอโทษ

ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลทรัมป์ ซึ่รวมถึงเฮ็กเซท และวอลตซ์ ลาออก