"หมอเจด" แนะไม่อยากเป็นมะเร็ง ต้องทำ 5 อย่างนี้ เช็กเลยมีอะไรบ้าง

26 มีนาคม 2568 "หมอเจด" นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ให้ความรู้ด้านสุขภาพ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอเจด โดยระบุว่า ไม่อยากเป็นมะเร็ง ต้องทำ 5 อย่างนี้!

มะเร็งเป็นโรคร้ายที่ไม่มีใครอยากเป็น หรือรวมถึงคนที่รักด้วยนะครับ ถึงมะเร็งจะน่ากลัว แต่ความจริงแล้วมีหลายอย่างที่เราสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เพื่อ "ลดความเสี่ยง" ได้เยอะมากเลยครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ 5 พฤติกรรมง่ายๆ ที่คุณทำได้เลย เพื่อช่วยลดโอกาสในการเป็นมะเร็ง มีอะไรบ้างมาดูกันครับ

1. เลิกบุหรี่

เรื่องนี้ฟังดูซ้ำๆ ใช่ไหมครับ? แต่ขอย้ำอีกครั้งว่า "การสูบบุหรี่" เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการเกิดมะเร็งหลายชนิด ไม่ใช่แค่มะเร็งปอดนะครับ แต่รวมถึงมะเร็งในช่องปาก ลำคอ หลอดอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ตับอ่อน และอีกหลายแห่ง เพราะในควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งมากกว่า 70 ชนิด เช่น เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และไนโตรซามีน ซึ่งเมื่อสะสมในร่างกายไปเรื่อยๆ จะไปกระตุ้นให้เซลล์ปกติกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้

ใครที่ยังสูบอยู่ อย่าเพิ่งท้อที่จะเลิกนะครับ ถ้าเริ่มวันนี้ ปอดจะเริ่มฟื้นตัว หัวใจก็ทำงานดีขึ้น และที่สำคัญลดความเสี่ยงมะเร็งได้นะครับ

2. ลดแอลกอฮอล์

รู้ไหมครับว่า แอลกอฮอล์ก็เป็นสารก่อมะเร็ง (carcinogen) ที่องค์การอนามัยโลกจัดอยู่ในกลุ่ม Group 1 เช่นเดียวกับบุหรี่เลย ซึ่งหมายความว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าทำให้เกิดมะเร็งไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งช่องปาก คอหอย หลอดอาหาร และลำไส้ใหญ่ ถึงจะดื่มไม่เยอะ แต่ถ้าดื่มเป็นประจำก็ยังเพิ่มความเสี่ยงได้ครับ เพราะเวลาร่างกายเราย่อยแอลกอฮอล์ มันจะเปลี่ยนเป็น "อะซีตัลดีไฮด์" ซึ่งเป็นสารพิษที่ไปทำลาย DNA ในเซลล์ได้โดยตรง 

ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แนะนำว่าให้ "ลดปริมาณ" และ "ลดความถี่" ลงครับ เช่น ดื่มเฉพาะโอกาสพิเศษ ไม่ดื่มตอนอยู่คนเดียว และงดดื่มต่อเนื่องหลายวัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากเลย

3.เลี่ยงของปิ้งย่าง ไหม้เกรียม

ใครชอบกินหมูกระทะ บาร์บีคิว ย่างถ่าน บอกเลยว่าข้อนี้น่าฟังครับ เพราะเวลาน้ำมันจากเนื้อสัตว์หยดลงบนถ่านร้อนๆ จะเกิดการเผาไหม้ที่ทำให้เกิดสารกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

นอกจากนี้ ส่วนที่ไหม้เกรียมของเนื้อก็มีสารอีกชนิดหนึ่งชื่อ Heterocyclic amines (HCAs) ซึ่งเกิดจากโปรตีนที่โดนความร้อนสูงนานๆ สารพวกนี้เข้าไปสะสมในร่างกายได้ครับ

ถ้าจะกินปิ้งย่างให้ปลอดภัยขึ้น ลองทำแบบนี้ดูครับ

• หลีกเลี่ยงส่วนที่ไหม้หรือเกรียม
• หั่นส่วนที่มีไขมันออกก่อนย่าง
• ใช้ถาดรองน้ำมัน หรือตะแกรงที่ลดการหยดลงถ่าน
• ทานควบคู่กับผักใบเขียว กระเทียม หรือพริก ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการดูดซึมสารอันตราย

4. งดอาหารแปรรูป

ไส้กรอก แฮม เบคอน กุนเชียง อาหารเหล่านี้อร่อยจริงครับ แต่หลายๆ การศึกษา รวมถึงของ WHO ยืนยันชัดว่า อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ เพิ่มความเสี่ยงของ "มะเร็งลำไส้ใหญ่" เพราะในกระบวนการผลิตจะมีการใช้สารไนไตรท์ (nitrite) เพื่อถนอมอาหาร ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกลายเป็นไนโตรซามีน สารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งกระทบต่อสุขภาพโดยรวมด้วย

ปรับการกินเป็นแบบนี้ดีกว่าครับ

• เลือกกินเนื้อสัตว์สดแทนแปรรูป
• ถ้าจำเป็นต้องกิน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า "ไม่ใส่ดินประสิว" หรือ "ไม่ใส่ไนไตรท์"
• ลดความถี่ในการรับประทานให้น้อยที่สุด

5. ควบคุมน้ำหนัก

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ความอ้วน ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งได้เหมือนกันครับ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ และมะเร็งรังไข่ เพราะเมื่อเรามีไขมันสะสมมากๆ โดยเฉพาะ "ไขมันในช่องท้อง" จะกระตุ้นให้เกิดภาวะอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้แย่ลง และเกิดการแปรสภาพของเซลล์ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ความอ้วนยังสัมพันธ์กับภาวะอินซูลินสูง น้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งครับ

เริ่มต้นลดความเสี่ยงได้ด้วยการ

• เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดินอาทิตย์ละ 150 นาที
• ลดอาหารแคลอรีสูงและน้ำตาล
• เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนดีๆ

นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ (ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก หมอเจด)

หมอเจด ทิ้งท้ายว่า 5 อย่างที่เล่าไปนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำได้ง่ายๆ นะครับ เราไม่ต้องทำทั้งหมดพร้อมกันก็ได้ครับ แต่ขอแค่ค่อยปรับ "เริ่มจากอย่างน้อยหนึ่งข้อ" แล้วทำให้สม่ำเสมอ นี่แหละครับคือจุดเริ่มต้นของสุขภาพดีในระยะยาว และเป็นการ "ลงทุน" ที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อป้องกันมะเร็งในอนาคต ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้ครับ ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้นะครับ 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : เพจ หมอเจด


ขอบคุณภาพ : vecstock จาก Freepik

ขอบคุณภาพบางส่วน : vecstock จาก Freepik