ศึก 2 บิ๊ก ตร.ใกล้จบ “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมม้วนเสื่อ? ลุ้น ก.พ.ค.ตร. ต่อลมหายใจ

28 มิถุนายน 2567 รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงษ์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต ให้สัมภาษณ์กับ “เนชั่นทีวี”ผ่านรายการ “มอร์นิ่ง เนชั่น” ถึงปัญหาภายในสำนักงานแห่งชาติ โดยเฉพาะศึก 2 บิ๊กตร. ว่า มติที่ประชุม ก.ตร. ที่มีมติเอกฉันท์ว่าคำสั่งที่ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้น หากไม่มีคำร้องขอความเป็นธรรมผ่าน คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เรื่องดังกล่าวก็ถือว่าจบแล้ว แต่กรณีนี้ต้องรอผลจาก ก.พ.ค.ตร. ก่อน  จึงเป็นเหตุผลที่นายกฯ บอกให้รอ

ส่วนกรณีที่ต้องมีการหาผู้นำองค์กรคนใหม่ แทนที่ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งจะเกษียณอายุในช่วงเดือนกันยายนนี้ จะกระทบต่อแคนดิเดตท่านอื่นที่มีคดีความฟ้องร้องกันหรือไม่ พ.ต.ท.กฤษณพงษ์ กว่าวว่า ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำตัดสินก็ให้ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จะไม่มีการตัดสิทธิ์ในการชิงตำแหน่งสูงสุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นคนหยิบชื่อขึ้นมาเสนอ ซึ่งตามกฎหมายคือ นายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีที่ “บิ๊กโจ๊ก” ออกมาเปิดปฏิบัติการฟ้องกราวรูด ทั้งนายกฯ และ ก.ตร. ทั้งคณะ จะส่งผลดีหรือผลเสีย พ.ต.ท.กฤษณพงษ์ มองว่า บิ๊กโจ๊กท่านคงมีเหตุผลของท่าน แต่การฟ้องนายกฯ ย่อมมีผลกระทบต่อ “บิ๊กโจ๊ก” โดยตรง หากได้กลับมารับราชการตำรวจ และดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.และเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ซึ่งนายกฯเศรษฐา และในตำแหน่งที่เป็น ประธาน ก.ตร. มีอำนาจในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. หมายความว่าหาก “นายกฯเศรษฐา” ยังดำรงตำแหน่งอยู่ในปีนี้หรือปีหน้า ก็จะส่งผลต่อ “บิ๊กโจ๊ก” ว่าจะส่งชื่อหรือไม่ ขณะที่ ก.ตร.ทั้งคณะที่ถูก “บิ๊กโจ๊ก” ร้องเอาผิด ก็เช่นเดียวกัน เมื่อต้องมีการลงคะแนนให้กับ ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ แน่นอนว่ามีผลต่อการลงคะแนนอย่างแน่นอน 

ส่วนเรื่องกระแสข่าวมีการดีลขอกลับสตช. ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีการดีลเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ประเด็นสำคัญคือ ความสง่างามของการดำรงตำแหน่ง เพื่อให้ความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับมา ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการวางโรดแมปเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ยังผูกอยู่กับการเมือง การเมืองไม่ยอมปล่อยอำนาจ ดังนั้นเราต้องการผู้นำที่เสียสละ เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.กฤษณพงษ์  ได้ให้มุมมองเรื่งอง “การปฏิรูปวงการตำรวจ” ด้วยว่า ต้องเริ่มจากปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส นำมาจัดการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยทำเป็นโรดแมป แบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ดูต้นเหตุของปัญหาเกิดจากอะไร หากเป็นเรื่องการโยกย้ายตำรวจ หรือเรื่องแต่งตั้ง ผบ.ตร.หรือไม่ โดยใช้คุณธรรมเป็นที่ตั้ง  จากนั้นในระยะต่อไปดูเรื่องตำรวจขาดแคลนอะไร ให้เข้าไปแก้ไข อีกทั้งการตรวจสอบการปฏิบัติงานของตำรวจทุกระดับเพื่อนำไปสู่การพัฒนา