svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศาลให้ประกัน "สุเทพ" กับพวก รวม 14 ราย กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศในระหว่างฎีกา

27 มิถุนายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

ศาลให้ประกัน "สุเทพ" กับพวก รวม 14 ราย คดีก่อการร้าย ชัตดาวน์กรุงเทพฯ กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศในระหว่างฎีกา

27 มิถุนายน 2567 ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีกบฏ กปปส.ชุดใหญ่ สำนวนหลัก หมายเลขดำอ.247/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.กับพวกแกนนำและแนวร่วม กปปส.รวม 39 คน (มีเสียชีวิต2 คน)

เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, ก่อการร้าย, ยุยงให้หยุดงานฯ, กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดฯ ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, บุกรุกในเวลากลางคืนฯ และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งฯ

โดยในช่วงเช้าวันนี้ นายสุเทพ อดีต เลขาธิการ กปปส.และแกนนำ กปปส.ทั้ง 37 คน ต่างทยอยเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด โดยมีมวลชนและบุคคลใกล้ชิดกว่า 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจ 

สำหรับการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันนี้ ศาลไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าฟังการอ่านในช่วงเช้านี้ เนื่องจากมีบุคคลจำนวนมาก โดยจะมีการเเจ้งผลคำพิพากษาให้ทราบภายหลังกระบวนการอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พิพากษาแก้โทษ รวมโทษจำคุก นายสุเทพ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี ,จำคุก นายชุมพล จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายพุทธิพงษ์ จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายอิสสระ จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายถาวร จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายณัฎฐพล จำเลยที่ 8 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายสมศักดิ์ จำเลยที่ 15 เป็นเวลา 1 ปี

จำคุกนายสุวิทย์ จำเลยที่ 16 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน ,จำคุกเรือตรีแซมดิน จำเลยที่ 24 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน, จำคุกนายคมสัน จำเลยที่ 26 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายสาวิทย์ จำเลยที่ 29 เป็นเวลา 1 ปี, จำคุกนายสำราญ จำเลยที่ 33 เป็นเวลา 8 เดือน, จำคุกนายอมร จำเลยที่ 34 เป็นเวลา 1 ปี ,จำคุกนายกิตติชัย จำเลยที่ 37 เป็นเวลา 1 ปี

คุก น.ส.อัญชะลี จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ,จำคุกนายถนอม จำเลยที่ 14 เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา, จำคุกนายสาธิต จำเลยที่ 17 เป็นเวลา 1 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา ปรับ 8,000 บาท, จำคุกนางทยา จำเลยที่ 38  เป็นเวลา 8 เดือน ปรับ13,333 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา  (รวมไม่รอลงอาญา 14 คน รอลงอาญา 4 คน) ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 19 คนให้ยกฟ้อง 

นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ
ภายหลังคำพิพากษา ทาง นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษามีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่เท่าที่จดมาทันคือศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อหากบฎเเละก่อการร้ายพิพากษาลดโทษจำคุก นายสุเทพกับพวก ที่เดิมโดนตั้งเเต่ 4 -9 ปีกว่าก็ลดกันมาเหลือคนละ 1 ปี -1ปีเศษ เเบบนายสุเทพกับนายถาวร เสนเนียม เหลือคนละ 1 ปี เเต่ไม่รอลงอาญา

เหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษเนื่องจากมองว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเหตุต่อเนื่องกัน ต่างจากศาลชั้นต้นที่มองเป็นการกระทำหลายกรรมโทษเลยสูง โดยที่พิพากษาจำคุกไม่รอลงอาญาทั้งหมด 14 คน ส่วนรายอื่นก็มีพิพากษาเเก้ยกฟ้อง เเละมีเพิ่มโทษ จำเลยที่ไม่รอลงอาญาขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันในชั้นฎีกา ซึ่งคาดว่าศาลจะมีคำสั่งได้ในวันนี้เลยเรื่องจากศาลชั้นต้นสามารถสั่งเองได้เเต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจว่าจะส่งศาลฎีกาหรือไม่ หลักทรัพย์เดิมเราเตรียมไว้พร้อมเเล้ว

ศาลให้ประกันตัว "สุเทพ" กับพวกรวม 14 คน ระหว่างฎีกาห้ามออกนอกประเทศ

ต่อมา เวลา 16.20 น. นายสวัสดิ์ เจริญผล เปิดเผยว่า ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 14 ระหว่างฎีกา โดยใช้หลักทรัพย์เดิมในศาลชั้นต้นประมาณรายละ6-8 เเสนบาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล โดยให้นำพาสสปอร์ตมาวางศาลไว้

"สุเทพ" เผยไม่กังวล ปรึกษาทนายสู้ฎีกาต่อ

ขณะที่ นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้ลดโทษจำคุก เเต่ไม่รอลงอาญาว่า ทุกอย่างเป็นกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามดุลพินิจของศาล พวกตนที่เป็นจำเลยตั้งใจมาตั้งแต่ตอนต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นแล้ว ไม่ว่าศาลจะมีคำพิพากษาใดๆ เราก็น้อมรับคำพิพากษาของศาล ซึ่งวันนี้ศาลอุทธรณ์ก็ได้ยกฟ้องจำเลยเพิ่มขึ้น จากเดิม 12 คนก็เป็น19 คน ส่งผลให้ครอบครัวของจำเลยมีความสุขไม่ต้องกังวล ส่วนพวกเราที่ศาลจำคุกไม่รอลงอาญาก็จะสู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกา ไม่มีความเห็นที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาการใช้ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ 

"ที่ถามว่าสองศาลไม่รอลงอาญาหนักใจหรือไม่นั้น ขอบอกว่า เจตนาที่เราออกมาตั้งแต่ต้นเป็นเจตนาดีที่เราทำเพื่อประเทศชาติ เมื่อเรามันใจว่าทำความดี เราก็จะต้องรับผลถึงที่ดี ใจเราก็ดีมาตั้งแต่ต้นไม่มีความกังวลอะไร ส่วนในชั้นฎีกาจะขอให้ศาลรอการลงโทษหรือไม่ก็ต้องไปปรึกษาทนายเพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกาอีกครั้งหนึ่ง" นายสุเทพ ระบุ

ศาลให้ประกัน \"สุเทพ\" กับพวก รวม 14 ราย กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศในระหว่างฎีกา

สำหรับคดีนี้ อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2556 - 1 พ.ค. 2557 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคล ชื่อ "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" หรือกลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพ เป็นเลขาธิการ

โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง

รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส. จากนั้นจะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชน เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และ ครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง

รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่ง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 

นอกจากนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 13 ม.ค. - 2 มี.ค. 2557 พวกจำเลยได้บังอาจปิดกรุงเทพมหานคร ด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพฯ รวม 7 จุด ปิดกั้นเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกีดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง การกระทำของพวกจำเลยล้วนไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหารตามรัฐธรรมนูญ

เหตุเกิดในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน นายสุเทพ กับพวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

ต่อมาวันที่ 24 ก.พ. 2564 ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกจำเลยรายสำคัญ โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในส่วนความผิดฐานกบฏและก่อการร้าย พฤติการณ์ชุมนุมไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลใด เพื่อล้มล้างการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร จึงไม่เป็นความผิดฐานกบฏ และก่อการร้าย

เเต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และจำเลยอื่นรวม 26 คน ศาลตัดสินจำคุกในความผิดฐานยุยงให้เกิดการหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา, ร่วมกันมั่วสุม 10 คนขึ้นไป, ร่วมกันบุกรุกสำนักงานผู้อื่นในเวลากลางคืน, ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันกระทำการโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

logoline