จับ อ.เพชร เจ้าแม่สักลายมือเศรษฐี โฆษณาเว็บพนัน

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนหาข่าวการกระทำความผิดทางสื่อสังคมออนไลน์ FACEBOOK , INSTRAGRAM , TIKKOK กระทั่งพบว่า มีผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีพฤติการณ์เปิดสำนักสักลายมือ ดูดวง แก้ไขดวงชะตา ลงนะหน้าทอง แต่มีการแอบแฝงประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายค้น

โดยเมื่อวานนี้  26 กรกฎาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต. กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1 ,ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.1ฯ นำกำลังชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกับนักเรียนสืบสวนอาญาขั้นพิเศษ TOP G ไปดำเนินการ กระทั่งไปพบ  น.ส.ฐิติพรรณ อายุ 33 ปี (อาจารย์เพชร) ที่บ้านพัก ภายในชุมชนพัฒนา 33 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงแสดงหมายศาลเพื่อขอค้นบ้านพัก

 

ทั้งนี้ จากการตรวจค้นหาข้อมูลทางโทรศัพท์พบว่า น.ส.ฐิติพรรณฯ มีการส่งลิงก์เว็บพนันออนไลน์ อยู่ในกลุ่มไลน์ภายในโทรศัพท์มือถือของกลาง โดยผู้ต้องหาจะแจกตัวเลขที่ใช้ในการเล่นหวยประจำแต่ละงวด อาทิ หวยลาว หวยไทย หวยยี่กี พร้อมกับแนบลิงก์เว็บพนันออนไลน์ ซึ่งตนเองจะได้ค่าคอมมิชชั่น 2% จากยอดที่มียูสเซอร์เข้าเล่นพนัน 

สำหรับในชั้นจับกุม น.ส.ฐิติพรรณฯ ให้การรับสารภาพ และยอมรับว่าทำมาประมาณ 2 ปีแล้ว มีรายได้จากการชักชวนดังกล่าวประมาณ 158,043 บาท ยอดเงินหมุนเวียนภายในเว็บพนัน ประมาณ 9,000,000 บาท 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.ฐิติพรรณฯ ทราบว่ากระทำความผิดฐาน "ประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันฯ"  จากนั้นจึงได้นำตัว น.ส.ฐิติพรรณฯ มาจัดทำบันทึกจับกุม/ตรวจยึด ที่ สน.บางเขน และได้นำตัวผู้ถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากย้ำเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มเว็บไซต์พนันบอล ที่ใช้อุบายโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์อ้างผลตอบแทนสูงจูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ทำให้สูญเสียเงินและทรัพย์สิน เพราะการพนันไม่เคยทำให้ใครรวย ส่วนผู้ที่ประกาศเชิญชวน มีความผิดฐาน "ผู้ใดช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันฯ ระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ" ถูกจับมีประวัติติดตัว อีกทั้งยังเสียความน่าเชื่อถือด้วย