10 เมษายน 2568 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เดินทางเข้าแสดงความยินดีกับ "สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สตง.) ในโอกาสครบรอบ 25 ปี พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงเหตุการณ์ "ตึก สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค.68" แต่ สตง. กลับยังไม่มีการแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ถล่ม
โดย พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ระบุว่า ทาง นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าฯ สตง.) จะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดหลังสงกรานต์นี้ ตนได้ให้นโยบายแล้วว่าจะต้องให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแสวหาความจริง
ขณะนี้ตนได้สั่งให้มีรายงานและรายละเอียดมาให้ทราบแล้ว ส่วนเรื่องของแรงงานทีมีปัญหาอยู่ ผู้ว่าฯ สตง.ได้ประสานกับ กทม. ขณะที่เรื่องการว่าจ้างบริษัทยังต้องรอรายละเอียดจากรายงานอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน สตง.จะต้องมีการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีคณะกรรมการควบคุมการตรวจสอบที่ตรวจสอบเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนการตรวจสอบประเด็นดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นจึงต้องดูรายงานก่อน
ซึ่งจะต้องดูผลจากคณะกรรมการชุดที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แต่งตั้ง และจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน
พล.อ.ชนะทัพ ตอบว่า ต้องรอผลจากคณะกรรมการชุดของรัฐบาลก่อน ถึงจะมาดูรายละเอียดว่า สตง.จะต้องทำอะไรต่อบ้าง และที่ผ่านมาก็ได้คุยกับ ผู้ว่าฯ สตง.แล้ว มีความห่วงใยและเสียใจเป็นอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และ สตง.ก็ได้คุยกับญาติของผู้เสียหายแล้ว วันนี้ก็จะไปร่วมงานทำบุญใหญ่ที่จุดเกิดเหตุด้วย
ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉยและไม่ได้นิ่งนอนใจแม้จะผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว สตง.พยายามอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติ แต่ยังไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังไม่สามารถที่จะรีบได้ ต้องดูรายละเอียด หากผิดพลาดหรือไม่ชัดเจนก็จะเกิดปัญหาได้
ส่วนประเด็นการเชื่อมโยงกับนายทหารและบริษัทจีนตนคิดว่าไม่ไช่เรื่องจริง ก็ให้มีการพิสูจน์กันต่อไป แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายทหารที่ถูกกล่าวอ้างและมีชื่ออยู่ใน "บริษัท ไชน่า เรลเวย์ No.10" เพราะทำงานอยู่ในกองทัพก็รู้จักกันหมด แต่ไม่ได้สนิทสนม คลุกคลี หรือไปช่วยเหลืออะไรกัน เอาเรื่องงานเป็นหลัก และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ถูกพูดถึงการที่ตนมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินก็ทำตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ สมัครเข้ามาโดยไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่หรือใช้เส้นสายและสมัครเข้ามาในรูปแบบของคณะกรรมการ ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่ามีนายทหารข้าไปอยู่ในกรรมการบอร์ดหลายคน
ตนชอบและเคยทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประกอบกับจังหวะดี ขณะนั้นกฎหมายเปิดช่อง ตนจึงคิดว่าเป็นโอกาส แต่ถ้าถามว่าทหารจะมีโอกาสขนาดนี้หรือไม่ก็ต้องดูว่ากฎหมายให้โอกาสไหม
พล.อ.ชนะทัพ ตอบว่า ตนในฐานะประธานฯ ยังไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนี้
พล.อ.ชนะทัพ ระบุว่า ต้องดูว่าความรับผิดชอบมีแค่ไหน อย่างไร จะโยนมาทั้งหมดก็ไม่ได้ ตนและกรรมการขาวสะอาดทั้งหมด ไม่มีประวัติด่างพร้อย ทุกคนทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน
พล.อ.ชนะทัพ เผยว่า ตนได้มอบนโยบายไปแล้วในการปฏิบัติหน้าที่ ทำหน้าที่โดยซื่อสัตย์สุจริตตามพระบรมราโชวาทของรัชกาลที่ 9 ว่าเงินแผ่นดินคือเงินของประชาชน
พล.อ.ชนะทัพ ตอบกลับว่า จะเป็นเรื่องยึดโยงกันหมด มีหน่วยงานอื่นในการตรวจสอบอยู่แล้ว เช่น กรมบัญชีกลาง ก็มีการตรวจสอบ สตง.ทุกปี และจะมีหน่วยงานที่ให้แนวทางกับกรมบัญชีกลางตรวจสอบ ขณะเดียวกันคณะกรรมการก็สามารถตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าฯ สตง.ได้ โดยเป็นการประเมินการทำงานและสามารถถอดถอนได้
พล.อ.ชนะทัพ ระบุว่า ตอนนี้จะต้องมีความเห็นของคณะกรรมการและเสนอไปที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อแก้กฎหมาย แต่ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าฉบับเดิมและฉบับใหม่อะไรจะดีกว่ากันเนื่องจากว่าเพิ่งใช้ฉบับใหม่มา 8 ปี แต่ฉบับเดิมใช้มาแล้ว 20 ปี จึงต้องดูว่าหากแก้ไปมาอาจจะเหมือนฉบับเดิม ซึ่งกฎหมายฉบับเดิมมอบให้กรรมการและผู้ว่าฯ สามารถตรวจสอบได้ แต่กฎหมายฉบับใหม่มอบให้ผู้ว่าฯ เป็นผู้ตรวจสอบเพียงคนเดียว เมื่อกฎหมายเขียนไว้อย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม
พล.อ.ชนะทัพ กล่าวว่า เรื่องการบริหารในเรื่องเกี่ยวกับสำนักงานผู้ว่าจะมีสิทธอำนาจ กรรมการเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ให้ผู้ว่าสรุปข้อมูลรายงานให้กรรมการทราบ เนื่องจากสถานการณ์บีบบังคับในการเตรียมข้อมูลหากผู้ว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็ให้มารายงาน
พล.อ.ชนะทัพ ตอบกลับว่า ต้องไปดูข้อกฏหมายอีกครั้งว่าเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงจะต้องทำอย่างไร ต้องหารือกับคณะกรรมการก่อนเพื่อให้ข้อคิดเห็นสรุปเป็นมติ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการประชุม ต้องรอให้มีการสรุปมาก่อน ส่วนข้อมูลที่ปรากฏผ่านสื่อมีทั้งถูกและผิด จึงต้องรอข้อสรุปจากรายงานที่จะส่งมา
ดูคลิป