9 เมษายน 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" นำชาวบ้านจาก อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นชาวบ้านกว่า 50 คน ส่วนหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากการถูก "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน อำเภอหนองสองห้อง" จังหวัดขอนแก่น ฉ้อโกงมูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท
โดยมี น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ เพชรประดับ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง
ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ระบุว่า วันนี้ได้พาชาวบ้านจาก อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เดินทางมาเพื่อพึ่งดีเอสไอ กรณีที่ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายเป็น "สมาชิก สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน อำเภอหนองสองห้อง" ถูกกรรมการสหกรณ์โกงเงิน ใน 5 กรณี
กรณีที่ 1 หลังสมาชิกไม่สามารถเบิกเงิน หรือถอนเงินได้ โดยกรรมการอ้างว่าเงินมันหายจากระบบที่มีการกู้เงินออกไปแล้วไม่จ่ายเงินเป็นจำนวนกว่า 40 ล้าน ซึ่งได้มีการตรวจสอบว่าใครเป็นคนกู้เงินจำนวนนี้ ปรากฎว่าสหกรณ์ได้มีการปลอมเอกสาร ปลอมลายมือชื่อสมาชิก ซึ่งรายที่หนักสุดคือเอาชื่อคนพิการไปเป็นคนกู้เงินจำนวน 1.5 ล้านบาทแล้วไม่จ่ายคืน คนพิการที่ไหนจะกู้เงินได้เยอะขนาดนี้
กรณีที่ 2 สมมุติว่าชาวบ้านต้องการไปกู้เงินกับสหกรณ์ 3 แสนบาท แต่สหกรณ์ปลอมเอกสารกู้เงินใส่จำนวนเงินเกินกว่าที่ผู้กู้จะกู้ โดยเอาส่วนต่างไปใช้จ่ายจนชาวบ้านต้องถูกบังคับคดีต้องจ่ายเงินนับล้านบาท ทั้งที่กู้เพียงหลักแสน
กรณีที่ 3 ให้คำมั่นกับชาวบ้านให้นำเงินมาฝากที่สหกรณ์มาฝาก โดยจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าการนำเงินไปฝากธนาคารทั่วไป ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อฝากเงิน สุดท้ายถอนเงินไม่ได้
กรณีที่ 4 สมาชิกเอาเงินไปฝากซื้อหุ้นสหกรณ์ โดยอ้างว่าจะมีการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจ โดยให้ผลตอบแทนที่สูงไม่มีขาดทุน แต่สุดท้ายเมื่อต้องการใช้เงินจะถอนหุ้นออกมากลับถอนไม่ได้ สหกรณ์อ้างว่าขาดทุน
กรณีที่ 5 สหกรณ์เบี้ยวเงินฌาปนกิจ ที่สมาชิกฝากไว้เพื่อจะนำมาใช้ยามที่ตนเองเสียชีวิต แต่ปรากฏว่าเมื่อมีการเสียชีวิตของสมาชิกกลับไม่ได้เงิน เบิกได้ล่าสุดกลางปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันไม่สามารถเบิกได้แล้ว
ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยังระบุอีกว่า ผู้เสียหายบางรายมีการไปแจ้งความไว้แล้วบ้าง และแจ้งไปยังสหกรณ์จังหวัดแล้ว ซึ่งระบุว่าตอนนี้ตัวของสหกรณ์เองอยู่ในสถาณะที่ไม่มีสภาพคล่องแล้ว และยังทราบว่าเงินได้ออกไปหานายทุนหมดแล้ว
สหกรณ์ไม่เหลือเงินจะให้ชาวบ้านบังคับคดี ชาวบ้านจึงมาร้องขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเพราะมีผู้เสียหายหลายร้อยรายมูลค่าเสียหายกว่า 300 ล้านบาท แต่ก็ยังมีคนที่ยังไม่ออกมา เฉพาะสมาชิกฌาปณกิจก็หลายพันคน ซึ่งสหกรณ์แห่งนี้เคยตกเป็นข่าวเมื่อเดือน ม.ค.68 ที่ผ่านมาด้วย
ต้องยอมรับว่าตำรวจท้องที่ไม่มีเครื่องมือหรือความชำนาญในการทำคดีนี้ จึงต้องมาพึ่งดีเอสไอ และหลังจากนี้ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรมด้วย