10 เมษายน 2568 ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเปิดเเถลงข้อเท็จจริง กรณีการตรวจสอบเหล็กเส้น ที่ใช้ในการก่อสร้าง ตึก สตง.ถล่ม ตกค่ามาตรฐาน รวมถึงมาตรการการดำเนินการต่อไป
โดยนายพงศ์พล กล่าวว่า อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ใช้เครื่องจักรเก่า ไม่มีการจัดจ้างเเรงงานไทย กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม จะใช้กรณีของบริษัทซิน เคอ หยวน สตีล (จำกัด) เป็นเคสตัวอย่างจะดำเนินการให้อยู่หมัด
การดำเนินการหลังจากนี้ จะเร่งสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสหกรรม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ขณะเดียวกันจะรวบรวมข้อมูลให้ดีเอสไอเป็นคดีพิเศษ เเต่เเยกคนละส่วนกับที่ดีเอสไอ ได้รับคดีทำตึก สตง.ไว้เป็นคดีพิเศษก่อนอยู่เเล้ว
หลังจากนี้จะมีความร่วมมือ บูรณาการร่วมกัน เเลกเปลี่ยนข้อมูล จากหน่วยงานต่างๆ เช่น ปปง. เรื่องการฟอกเงิน ดีเอสไอ เพื่อเเลกข้อมูลรายชื่อกรรมการบริษัท อาจพัวพันกับบริษัทอื่นๆ อีก 24 บริษัท เเละเหล็กอีก 4 บริษัท ที่ ซิน เคอ หยวน เข้าไปเกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ มีการตรวจเหล็ก ขนาด 32 มม. ตกค่าระยะการดึงเเละเหล็ก ขนาด 20 มม. ตกค่ามวลต่อเมตร เเละ มีเเบรนด์ของซินเคอหยวน ที่ตกค่ามาตรฐานเพียงเเห่งเดียว ก่อนหน้านี้สั่งปิดโรงงาน หลังตรวจพบว่าไม่ได้มาตรฐาน เเละ สมอ.เเจ้งเตือน ก่อนสั่งพักใบอนุญาต ทำให้ไม่สามารถผลิต เเละจำหน่ายได้ เหล็กที่ตกค่ามาตรฐาน ยืนยันว่าไม่เคยอนุญาตให้กลับมาเปิดโรงงานใหม่ช่วงเดือนมกราคม 2568
ยืนยันว่า จะไม่มีการทำการตรวจสอบคุณภาพซ้ำ ตามที่ ซิน เคอ หยวน จะให้นำไปตรวจสอบ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครตรวจเป็นครั้งที่ 3 ไม่มีใครจะตรวจสอบซ้ำ จะไม่มีการทดสอบซ้ำ
นอกจากนี้ยังพบข้อผิดปกติบางอย่างในการสอบสวน เรื่องการหยุดการประกอบกิจการโรงงาน โดยก่อนหน้านั้นใช้ค่าไฟ 130 ล้านบาทต่อเดือน จากนั้นลดลงอย่างมีนัยยะคือ เหลือหลักแสน หลักล้าน ส่วนความผิดปกติคือค่าน้ำลดลงน้อยมาก เป็นคำถามที่บริษัทอาจจะต้องชี้เเจงมาที่กระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงพบข้อผิดปกติ ในเรื่องของการดำเนินการ ก่อนขยายโรงงานก่อนได้รับอนุญาตอีไอเอ ขอให้โรงงานชี้เเจงเช่นเดียวกัน
เมื่อวาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้เชิญ ตำรวจสอบสวนกลาง ดีเอสไอ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เอาข้อมูลมาแชร์กัน อาทิ ฟอกเงิน รายชื่อกรรมการบริษัท รวมถึงค้นพบว่ามีบริษัทเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของเหล็กอีก 4 บริษัท
วันพรุ่งนี้(11เม.ย.68) กระทรวงอุตสาหหกรรม จะร่วมกับโยธาธิการ ลงพื้นที่่เก็บหลักฐาน ให้ได้มากที่สุด เก็บ 4 จุด สำคัญ รวมถึงการ ตัดเสาปูน เป็นหลัก
โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผลของการชี้แจงข้อมูลตามที่ กระทรวงอุตสาหกรรม มีจดหมายขอให้มีการเปิดเผยข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตรวจสอบ โดย สมอ.ขอข้อมูลเหล็กข้ออ้อย 20 มม. และ32 มม. ที่ตกค่ามาตรกฐาน ที่ค้นพบในอาคาร สตง.ถล่ม ว่าได้จำหน่ายแจกจ่ายให้ใครบ้าง
โดย ซินเคอหยวน ตอบกลับ ในวันที่ 7 เมษายน 2568 ว่า ทางบริษัทไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการจำหน่าย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มิใช่ผู้จำหน่ายเหล็กดังกล่าวให้กับโครงการก่อสร้างตึก สตง. แต่ประการใด รายละเอียดในประเด็นอื่นๆ จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อมูลได้ เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างหยุดดำเนินการ
การชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายให้กับ สตง.โดยตรง แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลประกอบ ตรงนี้เท่ากับไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือครบถ้วน การเรียกให้บริษัทซินเคอหยวน ส่งข้อมูลที่จำหน่ายเหล็กไปทางไหนให้กับใคร มันมีประโยชน์กับประชาชน ถ้ารู้จะได้แก้ไขในทางวิศวกรรมศาสสตร์ในการเสริมให้แข็งแรงขึ้น
เพราะเราขอข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ผลิตภัณฑ์ในปี 2563 - 2565 ในช่วงที่มีการก่อสร้างแจกจ่ายให้ใคร ซึ่งกฎหมาย สมอ. มี มาตรา 56 ระบุเกี่ยวกับกรณีไม่ให้ความร่วมมือด้านข้อมูล ที่อาจพิจารณาดำเนินการต่อไป
ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้ชี้แจงฝุ่นแดงกว่า 4 หมื่นตัน ที่ค้นพบที่โรงงานในอ.บ้านค่าย จ.ระยอง จนถึงวันนี้ วันที่ 10 เมษายน 2568 ครบกำหนดการชี้แจงฝุ่นแดง เรายังไม่ได้รับฟังผลว่ามาจากไหน การชี้แจงต้องจริงจัง มีความจำเป็นมาก กองกากอุตสาหกรรมมีความจำเป็นมาก ที่ต้องรายการให้ชัดเจนที่สุด