10 เมษายน 2568 ความคืบหน้ากรณีนายมานพ แพงคำมี อายุ 43 ปี ชายหัวร้อนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายวิโรจน์ แดนแปว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน กระสุนเข้าที่บริเวณหน้าอก และเท้าด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.2568) เวลาประมาณ 09.00 น. ที่บ้านคลองก้นหวด ซอยนารีขี้เมา พื้นที่หมู่ 10 ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้าไปบนชั้น 2 ของตัวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังปิดล้อมเพื่อทำการจับกุม
และระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการปิดล้อมบ้านที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.กษิเดช วัชรอมรชัย สว.สืบสวน ได้พยายามเข้าไประงับเหตุ กลับถูกนายมานพ ยิงปืนใส่กระสุนเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ นอกจานี้ ยังมี ร.ต.อ.สุภาคีนัย แตงตรง พร้อมด้วย ร.ต.ต.ธนรัตน์ หาญแก้ว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าท้อง และที่ขา ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน โดยทั้งหมด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชนแดน และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ล่าสุดผู้บาดเจ็บทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้ ระหว่างทำการปิดล้อมระงับเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้มอบตัว แต่ไม่เป็นผล จึงประสาน แม่ผู้ก่อเหตุ ให้มาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมอีกทางหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล ส่วนชนวนที่นายมานพก่อเหตุยิงเพื่อนบ้าน เนื่องจาก นายวิโรจน์ (เพื่อนบ้าน) ติดกล้องวงจรปิด แล้วส่องเข้าไปในเขตบ้านของ นายมานพ จึงมีการทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่จะมีการใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บ
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดเหตุ เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.วันนี้ (10 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงตรึงกำลัง และระดมยิงแก๊สน้ำตาเป็นระยะ เพื่อหวังกดดันให้ชายคลั่งออกมามอบตัว พร้อมกันนี้ได้มีการนำแผงเหล็กมาทำการปิดกั้นถนนสาย ชนแดน-หนองไผ่ เพื่อไม่ให้ประชาชนใช้เส้นทางในการสัญจร เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากตัวผู้ก่อเหตุที่ยังคงยิงอาวุธปืนออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางสายชนแดน-หนองไผ่ (ซึ่งเป็นเส้นทางลัด) ให้หันไปใช้เส้นทางสายชนแดน-วังชมภู แทน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เตรียมชุดแม่นปืน โดยมีการนำอาวุธปืนยาวติดลำกล้อง และทำการใช้โดรนบินสังเกตสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าถ้าสถานการณ์ยังไม่ลดความรุนแรง หรือตัวชายคลั่ง ยังไม่ยอมมอบตัว วันนี้อาจจะต้องใช้ยาแรงในการควบคุมสถานการณ์ก็เป็นได้
ขณะที่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง สุดเอือมกับพฤติกรรมชายคลั่งรายนี้ เผยเข้า-ออก คุกมาหลายรอบ แต่ไม่ยอมปรับปรุงตัว สร้างแต่เรื่อง ทั้งยิงปืนขู่ ขว้างปาบ้านชาวบ้าน
จากการสอบถาม นางแอปร์เปิ้นร์ กัลล์ อายุ 47ปี เล่าว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะติดยามานานแล้ว ซึ่งเขาจะเที่ยวปาสิ่งของใส่บ้านคนโน้นคนนี้ ซึ่งบ้านตนไม่รู้เป็นยังไงโดนปาบ้านมาหลายทีแล้ว ผู้ก่อเหตุติดคุกเข้าออกหลายทีแล้ว กลับออกมาก็เหมือนเดิม เคยไปพูดคุยกับเขาดีๆว่า ไม่อยากมีศัตรูอยากมีเพื่อน มีอะไรที่ทำให้ไม่พอใจก็บอก ซึ่งตอนพูดคุยมันก็คุยดีด้วย แต่หลังจากนั้นมันก็ทำอีก ตนเองได้แจ้งความไว้แล้ว ต่อมาตำรวจจะเอาหมายจับมาดำเนินคดี แต่ผู้ก่อเหตุดันมายิงเพื่อนบ้านบาดเจ็บก่อน
คือตัวผู้ก่อเหตุนั้น เกิดความคุ้มคลั่งก่อน และก่อเหตุยิงชาวบ้าน ตำรวจจึงมา ซึ่งตอนเช้ายิงตำรวจบาดเจ็บ และช่วงบ่ายก็ยิง ตำรวจบาดเจ็บอีก เมื่อคืนที่ผ่านมาตัวผู้ก่อเหตุ ยังยิงปืนสู้กับตำรวจอยู่ กระทั่งตอนตี 5 ยังมีเสียงตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
ที่ผ่านมา ตัวเขาเวลาอยู่ที่บ้านชอบยิงปืนขู่ชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านกลัว และจะยิงอยู่อย่างนี้ทุกวัน บางครั้งก็เดินเข้าในซอยบ้านของตน และมายิงปืนขู่ ตนเองนั้นไม่กลัวที่จะเอาเรื่อง แต่กลัวที่จะโดนยิงมากกว่า ตนเองอยากให้ตำรวจวิสามัญ เพราะว่าพอเขากลับมาบ้าน ทุกคนก็อยู่ในความหวาดกลัว ตนเองมองว่าปล่อยให้อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน ลองไปถามชาวบ้านแถวนี้ได้เลย