7 พฤศจิกายน 2565 จากกรณเหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลำภู" ผู้ก่อเหตุเข้าไปปลิดชีพเด็กเล็กอายุ 2-4 ปี และครู ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ก่อนกลับไปก่อเหตุยิงภรรยาและลูก เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 37 ศพ สุดสะเทือนใจทั้งพ่อแม่และประชาชนทั้งประเทศ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "เสกสรรค์ ศรีราช" ของ นายเสกสรรค์ ศรีราช สามีคุณครูสาวใกล้คลอด ที่ผู้เสียชีวิตพร้อมลูกชายอายุครรภ์ 8 เดือน จากเหตุสังหารหมู่ ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อภาครัฐ กรณีการจ่ายเงินเยียวยา มีรายละเอียดระบุว่า..
“ ลูกผมนะถ้าพูดตามการกฏหมายลูกผมไม่ได้รับการเยียวยาอยู่แล้ว เพราะลูกผมมาสิ้นใจตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ถ้ารัฐบาลมาถามหาเลขบัตรประชาชนใบเกิดลูกผมไม่มี เพราะลูกผมสิ้นใจก่อน จะให้เขาเอาเลขบัตรประชาชนกับใบเกิดมาแต่ไหน ขนาดผมพาภรรยาไปผ่าคลอดทั้งๆที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว
ครูพร เสียชีวิตพร้อมลูกน้อย อายุครรภู 8 เดือน
นี่หรอคือสิ่งที่รัฐเอาแต่กฏหมายมาอ้างในการเยียวยาลูกชายเหตุผลเพียงเพราะลูกผมสิ้นใจในท้อง ผมเคารพกฏหมายบ้านเมืองเสมอแต่พวกคุณเข้าใจไหมว่ามนุษย์ธรรมมันควรมีทุกคนสิ่งที่ผมโพสต์วันนี้และในส่วนของราชการละครับคุณเอาแต่กฏหมายว่าลูกผมไม่มีนั้นนี่สิ้นใจก่อนไม่นับลูกผมในการเสียชีวิตครั้งนี้ ผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนรู้ไหมว่าผมต้องเจ็บซ้ำแค่ไหน
ผู้ใหญ่เอาแต่หลักเกณฑ์มาพูดอันนั้นอันนี้ไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่เข้าใจไหมว่าผมสูญเสียทั้งเมียและลูก ผมรู้ว่าทุกคนก็สูญเสียไม่แพ้กัน ผมเป็นพ่อผมต้องทวงความยุติธรรมให้ลูกผม
แล้วเอามั่วแต่เอากฏหมายมาอ้าง สงสารลูกผมบ้างไหม มนุษยธรรมมีให้ลูกผมบ้างไหม
ผมว่าจะไม่โพสต์แล้ว ผมอดทนมานานแล้ว ถ้าคิดว่าผมอย่างผมเห็นแก่เงิน คุณก็เอาชีวิตลูกเมียผมคืนมา ต่อให้ผมมีหนี้มากแค่ไหนผมก็มีความสุข ผมได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน นี่หรอคือสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านเมืองเห็นชีวิตเด็กน้อย 8 เดือนมีค่าแค่นี้ ทั้งๆที่เขาจะต้องลืมตามาดูโลกแล้ว ผมอยากถึงรัฐบาลพวกคุณก็มีลูกมีหลานพวกคุณก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี ”
ต่อมาเมื่อเวลา 07.17 น. วันนี้ (7 พ.ย.65) ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติม ระบุว่า...
มาตรา 15 สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย ทารกในครรภ์มารดาก็สามารถมีสิทธิต่าง ๆ ได้ หากว่าภายหลังคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก ผมทราบครับ กฏหมายข้อนี้ แต่จะให้เขาอยู่รอดจนทารกเป็นทารกได้อย่างไรครับ ในเมื่อแม่เขาสิ้นใจก่อน แม่สิ้นใจลูกก็ต้องสิ้นใจตาม แถมยังมาโดนอดีตเจ้าที่ทำร้ายทั้งแม่และลูก รู้ไหมขนาดภรรยาผมเสียชีวิตในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่
คนร้ายยังฟันท้องภรรยาผมทะลุถึงลูกผม จะให้รอดเป็นทารกได้อย่างไร ทำไมไม่มองเรื่องมนุษยธรรมบ้างคุณธรรมบ้างพอเกิดเรื่องกฏหมายมาก่อนเลย ทีตอนคนร้ายเขาทำเป็นคนเขายิ่งเป็นคนรักษากฏหมาย ทำไมถึงปล่อยให้เขามีอาวุธมาทำร้ายทั้งคณะครูและเด็กๆที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย
#ผมฝากไว้ให้คิดครับ
#ผมละท้อใจกับประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายเสกสรรค์ ซึ่งได้เปิดเผยความรู้สึกว่า สาเหตุที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ก็อยากจะใช้สิทธิ์ของความเป็นพ่อทวงสิทธิ์ให้กับลูก
" ส่วนในเรื่องของกฏหมายบ้านเมืองนั้น เคารพกฎหมายอยู่ ตามหลักกฎหมายลูกผมไม่มีสภาพบุคคล หากมองว่าวันที่ลูกผมไปผ่าคลอดนั้น ลูกผมเป็นก้อนเลือดเหรอ ลูกผมมีอวัยวะครบทุกอย่าง 32 ประการ พร้อมที่จะลืมตามาดูโลกแล้ว ผมก็ต้องทำหน้าที่ของพ่อทุกอย่างทวงสิทธิ์ ให้ลูกผมได้รับความเป็นธรรม ผมผิดตรงไหน ผมอยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือผมด้วย ถึงการเบิกเงินหลวงมามันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีช่องทางที่จะเยียวยาผมได้เลยเหรอครับ "
นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า การเยียวยาจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าผู้ใหญ่ไม่มนุษยธรรมประเทศจะอยู่อย่างไร ผมก็ขอฝากไว้ และอยากให้มีกฎหมาคุ้มครองเด็กตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ด้วย เพราะว่าเราไม่รู้ว่าวันไหนจะเกิดเหตุ จึงอยากให้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานในการที่จะหาวิธีการช่วยเหลือด้วยหลักมนุษยธรรม
นอกจากนั้น นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือหากมันขัดต่อกฏหมายแล้ว ไม่มีวิธีอื่นที่จะดูแลลูกผมหรือ อยากให้มองในเรื่องของหลักมนุษยธรรม มองในเรื่องคุณธรรมที่ลูกผมจะได้รับบ้าง ถามหาทำไมเลขบัตรประชาชน ใบเกิดของลูกผม ถามแบบนี้ก็กินใจผมมากแล้ว ถามแบบไม่ให้เกียรติผู้ตาย
" หากผมยังคงมีภรรยาเคียงข้าง มีลูกอยู่พร้อมหน้า ชีวิตครอบครัวผมก็ยังจะมีกำลังใจในการต่อสู้ อยากให้มองชีวิคมีตัวตนหน่อย นับเป็น 1 ชีวิตได้ไหม "
สำหรับเงินที่ได้รับการช่วยเหลือที่ผ่านมานั้น นายเสกสรรค์ บอกว่า สำหรับในส่วนของลูกจากทางภาคเอกชน คือ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอุดรธานี 100,000 บาท มอบไปเมือวันที่ 25 ตุลาคม 2565 จากทั้งคณะสงฆ์และภาคเอกชน รวม ได้รับมา 173,111 บาท ส่วนในเรื่องสภาพจิตใจในตอนนี้ ผมได้อโหสิกรรมไปให้กับผู้ก่อเหตุแล้ว จะได้ไม่จองเวรจองกรรมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ผู้ใช้โซเชียล ได้มาแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจนายเสกสรรค์ พร้อมตำหนิการทำงานของหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องเงียบก็มักจะไม่มีความคืบหน้าในการช่วยเหลือ ดังนี้