svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตำรวจเปิดยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" ลุยค้น 183 จุด กวาดล้างอิทธิพลเถื่อน

"บิ๊กต่าย" สั่งการผ่านห้องปฏิบัติการ Realtime Crime Center ยกกำลังตำรวจ กองปราบ-ภูธร ลุยค้น 183 จุด ทั่วประเทศ ภายใต้ยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" กวาดล้างอิทธิพลเถื่อน ล่าสุดรวบน้อง "ศักดิ์ ปากรอ" อดีตฆาตกรปลิดชีพยกครัว 5 ศพ

2 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระดมกำลังทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค1-9  เปิดยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" กระจายกำลังเข้าตรวจค้น รวม 183 จุด ทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มีอาวุธปืนผิดกฎหมาย แก๊งค์เงินกู้ดอกเบี้ยโหด

ตำรวจเปิดยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" ลุยค้น 183 จุด กวาดล้างอิทธพลเถื่อน

ก่อนที่ต่อมาเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช จะเดินทางมายังอาคารประชาอารักษ์ ที่ทำการกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อเข้าร่วมสั่งการผ่านห้อง ปฏิบัติการ Realtime Crime Center ซึ่งเป็นห้องควบคุมและมอนิเตอร์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบเรียลไทม์ 

อย่างไรก็ตาม จากปฏิบัติการครั้งนี้ ล่าสุดมีรายงานแจ้งเข้ามาว่า เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.6 บก.ป. และ กก.7 บก.รน. นำหมายค้นศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.ปากรอ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อตามจับกุมนายอภินันท์ ผู้ต้องหารายหนึ่งที่อยู่ในลิสต์เป้าหมายสำคัญที่ทางการตำรวจแห่งชาติต้องการตัว แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เจ้าตัวเกิดไหวตัวทัน ชิงหลบหนีไปได้ก่อน คงเหลือเพียง นายเพิ่มศิล ผู้เป็นพ่อ 

ตำรวจเปิดยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" ลุยค้น 183 จุด กวาดล้างอิทธพลเถื่อน อย่างไรก็ตาม จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก พบ อาวุธปืนอากร้า 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด 7.62 จำนวน 59 นัด ขนาด 5.56 จำนวน 39 นัด แม็กอากร้า จำนวน 2 ซอง รวมถึงอาวุธปืนยาวขนาด .22 ทรง m4 ติดกล้องเล็งจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 20 นัด ซองกระสุน 1ซอง และ โทรศัพมือถือ อีก 2 เครื่อง 

จากการสอบถามนายเพิ่มศิล ให้การรับว่าอาวุธปืนของกลางที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย 

ทั้งนี้แนวทางสืบสวนทราบว่า นายเพิ่มศิล นั้น มีศักดิ์เป็นน้องของ นายเนติราษฎร์ หรือ "ศักดิ์ ปากรอ" อดีตมือฆ่ายกครัวหัวหน้าสถานีอนามัยระโนด 5 ศพ คดีดังในอดีต อีกด้วย 

ต่อมาเวลา 11.00 น. ภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เสร็จสิ้นการเข้าร่วมสังเกตการณ์ ยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" ผ่านห้องปฏิบัติการ Realtime Crime Center เพื่อควบคุมการปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจค้นเป้าหมายในแต่ละจุดแล้วนั้น
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. / ภาพโดย กอบภัค พรหมเรขา ช่างภาพ NationPhoto
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เปิดเผยถึงภาพรวมปฏิบัติการครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้เร่งปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ฮั้วประมูล มือปืนรับจ้าง เครือข่ายยาเสพติด แก๊งเงินกู้นอกระบบ ค้าอาวุธปืนออนไลน์ จนนำมาซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ที่เป็นการร่วมมือกันของตำรวจทุกหน่วยงานในการค้นหาเป้าหมาย ได้เกือบ 200 จุด ซึ่งภาพรวมในการตรวจค้นจับกุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้เป็นที่น่าพอใจ 

"ก่อนหน้านี้เคยเปิดปฏิบัติการไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 25 -30 มิ.ย. เป็นการทลายเครือข่ายยาเสพติด ส่วนเป้าหมายครั้งนี้อย่างที่บอก เราเน้นหนักไปที่กลุ่มผู้มีอิทธิพล ฮั้วประมูล มือปืนรับจ้าง แก๊งเงินกู้ เครือข่ายยาเสพติด ค้าอาวุธปืนออนไลน์  ยกตัวอย่าง เครือข่ายกำนันนก รวมไปกลุ่มอื่นๆที่เรียกว่าบ้านใหญ่อีกหลายเครือข่าย ยืนยันว่าทุกกลุ่มเราไม่มีปล่อยวาง เราติดตามตลอด" รอง ผบ.ตร. ระบุ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับยุทธการครั้งนี้จากจำนวน 183 เป้าหมาย ขณะนี้เข้าตรวจค้นไปแล้ว 127 เป้าหมาย ยังมีอีกหลายจุดที่ยังไม่เสร็จสิ้น แต่โดยรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและของกลางได้เป็นจำนวนมาก อาทิ ยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด อาวุธปืนกว่า 700 กระบอก ซึ่งหลังจากนี้ไปได้กำชับไปแล้วว่าจะต้องเร่งขยายผลต่อเนื่อง

ส่วนบางเป้าหมายที่หลบหนีไปได้ ยืนยันว่าข่าวไม่ได้หลุดรั่ว แต่อาจเป็นเพราะช่วงจังหวะที่เป้าหมายไม่อยู่ อย่างไรก็ตามไม่ต้องเป็นกังวล ได้สั่งกำชับให้เร่งติดตามต่อเนื่องแล้ว 

ต่อข้อสักถาม ถึงกรณีกลุ่มเป้าหมายที่ตรวจค้นเป็นเครือข่ายบ้านใหญ่ต่างๆนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ไม่เป็นกังวล เพราะทำตามหน้าที่ ต้องการให้ประชาชนเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ อยากให้เห็นว่ายุทธการครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมสืบสวนและทีมปราบปรามของทุกหน่วยที่จับมือกัน และถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวกันของคณะผู้บัญชาระดับสูงทุกหน่วยเป็นจำนวนมาก 

"กลุ่มผู้มีอิทธิพลพวกนี้ มักสร้างความเดือดร้อน ก่อกวนถือเป็นภัยคุกคามชีวิตประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่หวั่นวิตก ที่จะปฏิบัติหน้าที่ โดยในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 10.00 น. จะมีการแถลงสรุปผลยุทธการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ที่ กองบังคับการปราบปราม" รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้าย


ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : กอบภัค พรหมเรขา ช่างภาพ NationPhoto