ตำรวจเร่งล่า 2 คนร้ายชิงเงิน 3.3 ล้าน พบ มีผู้รู้เห็นการเบิกเงิน 2-3 คน

4 กรกฎาคม 2567 จากกรณีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหาย ได้เงินไป 3.3 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถห้างดังแห่งหนึ่งย่านสวนหลวง แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าทางคดีวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคนร้าย 2 คน รวมถึงเส้นทางหลบหนีต่างๆ ซึ่งพบว่า หลังคนร้ายก่อเหตุแล้ว ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าถนนพัฒนาการขาออก ก่อนจะไปกลับรถหน้าโรงเรียนเตรียมพัฒนาการ แล้วมุ่งหน้าขาเข้าไปทางคลองตัน

ขณะเดียวกัน ยังได้เร่งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย หลังจากสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานที่เป็นรปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ไปเมื่อวานแล้ว โดยจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่า การเบิกเงินในครั้งนี้มีผู้รู้เห็น ว่าจะมีการมาเบิกเงิน มาก 2-3  คน ซึ่งผู้เสียหายที่เดินทางมาเบิกเงินสดนั้น เขาเป็นลูกจ้างของบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยนายจ้างใช้ให้มาเบิกเงินเพื่อนำไปใช้ในธุรกิจดังกล่าว  

ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจได้เรียกตัวผู้เสียหาย และเจ้าของบริษัท  มาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลว่า ขั้นตอนการเบิกเงินสดดังกล่าวจะมีผู้ที่รู้เห็นอยู่เพียง 3 ราย  ประกอบกับมีข้อสงสัยเพิ่มเติม จึงต้องทำการเรียกมาพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง

และในวันนี้ ทีมข่าว "เนชั่นทีวี" ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ บริเวณห้างดังกล่าว ซึ่งธนาคารที่ผู้เสียหายมาใช้บริการถอนเงินนั้น ก็ยังเปิดให้บริการตามปกติ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร ให้ข้อมูลเพียงแค่ว่า ช่วงเกิดเหตุ เขาไปเข้าห้องน้ำ จึงไม่เห็นเหตุการณ์ และตอนที่ยืนอยู่หน้าธนาคารก็ไม่ได้ทีอะไรที่ดูมีพิรุธหรือผิดสังเกต

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สำรวจจุดจอดรถจักรยานยนต์ ที่อยู่ใกล้กับธนาคารมากที่สุด ซึ่งพบว่า บริเวณนี้จะอยู่ห่างจากหน้าธนาคารประมาณ 10 เมตร และจะมองเห็นธนาคารได้ชัดเจน และจะมองเห็นรถยนต์ที่จอดหน้าธนาคารได้อย่างชัดเจนด้วย

ซึ่ง รปภ.ที่รับผิดชอบดูแลบานจอดรถ บอกว่า พวกเขาไม่ได้เข้าเวรเมื่อวานจึงไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่าปกติแล้วถ้าจะมาธนาคาร มักจะมาจอดรถจักรยานยนต์กันบริเวณนี้

ส่วนเส้นทางหลบหนี จากข้อมูลพบว่า หลังคนร้ายก่อเหตุเสร็จก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทันที โดยขี่รถสวนทางเข้า ออกไป เพราะปกติแล้ว รถจะเข้าทางหนึ่งแล้วออกอีกทางหนึ่ง โดยจะมีกรวยกั้นไว้ชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งค้าขายอยู่บริเวณหน้าทางเข้าของห้าง เล่าว่าเขาไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เห็นว่ามีผู้ชาย 2 คน ขี่รถชนกรวย ดังปัง รีบออกไป เป็นรถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และเห็นผู้เสียหายวิ่งตามมา ท่าทางตกใจ