สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ภายใต้แนวปฏิบัติใหม่ที่ประกาศล่าสุด กำหนดว่า ศาล อัยการ หน่วยงานด้านความมั่นคงสาธารณะและความมั่นคงของรัฐ ควรลงโทษสถานหนักแก่พวกหัวรั้นเรียกร้องเอกราชของไต้หวัน สำหรับความผิดในข้อหาแบ่งแยกดินแดน และปลุกปั่นให้ก่ออาชญากรรมแบ่งแยกดินแดน โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ เพื่อปกป้องธิปไตย เอกภาพ และบูรณภาพทางดินแดนของจีน
แนวปฏิบัติใหม่ถูกกำหนดขึ้นโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงกฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนปี 2548 กฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจจีนใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อไต้หวันได้ หากแยกตัวหรือพยายามแยกตัว
เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เปิดเผยด้วยว่า โทษสูงสุดสำหรับคดีแบ่งแยกดินแดน คือ โทษประหารชีวิต
แนวปฏิบัติใหม่ระบุรายละเอียดของอาชญากรรมที่สมควรได้รับโทษประหาร เช่น การส่งเสริมให้ไต้หวันเข้าเป็นสมาชิกในองค์การระหว่างประเทศ ที่มีเงื่อนไขเรื่องความเป็นรัฐ, การแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการกับภายนอก และการปราบปรามพรรค กลุ่ม และประชาชนที่ส่งเสริมการรวมชาติ
แนวปฏิบัติยังเพิ่มข้อความที่ครอบคลุมการกระทำอื่น ๆ ที่มุ่งแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีนด้วย ซึ่งหมายความว่า คำจำกัดความของการกระทำผิดยังอาจตีความได้กว้างกว่านี้อีก
แต่มาตรการลงโทษของจีนมีผลในเชิงปฏิบัติน้อยมาก เพราะศาลจีนไม่มีอำนาจพิจารณาคดีในไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลไต้หวันปฏิเสธคำอ้างอธิปไตยของจีนเหนือดินแดนไต้หวัน
ขณะที่รัฐบาลไต้หวันยังไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ต่อการประกาศของจีนล่าสุด แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเผยกับสื่อว่า กำลังศึกษาเนื้อหาในแนวปฏิบัติฉบับใหม่
การเคลื่อนไหวของจีนล่าสุดเป็นอีกการเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว และจีนแสดงออกถึงความไม่พอใจที่มีต่อนายไล่อย่างชัดเจน โดยเรียกเขาว่า พวกแบ่งแยกดินแดน และจัดการซ้อมรบข่มขู่ทันที หลังพิธีสาบานตนของเขา