svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เลือกตั้ง USA

“แฮร์ริส” แซะ “ทรัมป์” อ้างเหนื่อย ไม่ร่วมดีเบต-สัมภาษณ์

รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตั้งคำถามเรื่องสุขภาพของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าพร้อมดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่ หลังทรัมป์มักอ้างเหตุผลไม่เข้าร่วมการดีเบตหรือการให้สัมภาษณ์เพราะว่าเหนื่อยเกินไป

ผู้สมัครประธานาธิบดีทั้งสองคน ได้แก่ รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวโดยกล่าวโจมตีอีกฝ่ายเรื่องความพร้อมและความสามารถในการบริหารประเทศระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในรัฐมิชิแกนเมื่อวันศุกร์ (18 ตุลาคม)

แฮร์ริส ตอบคำถามสื่อก่อนเริ่มการปราศรัยที่เมืองแกรนด์ แรพิดส์ โดยหลังจากถูกถามเรื่องทรัมป์ไม่ให้สัมภาษณ์บางครั้ง โดยอ้างว่า เหนื่อยล้าจากการหาเสียงว่า เคยได้ยินข่าวว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์ มักบอกว่า ทรัมป์เหนื่อย และมักใช้เป็นข้ออ้างที่ทรัมป์ไม่ให้สัมภาษณ์  ไม่เข้าร่วมการพบปะและตอบคำถามผู้มีสิทธิเลือกตั้งแบบทาวน์ฮอลล์ ที่ซีเอ็นเอ็นจัด และเขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการดีเบตอีกครั้ง

เธอบอกด้วยว่า “การเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจเป็นหนึ่งในงานหนักที่สุดในโลก  และเราจำเป็นต้องถามแล้วว่า เขาเหนื่อยเกินไปสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ เขายังพร้อมทำหน้าที่นี้หรือไม่

ขณะที่ทรัมป์ วัย 78 ปี ลงจากเครื่องบินที่เมืองดีทรอยต์ และถูกผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแฮร์ริสบอกว่า เขาเหนื่อยเลยไม่เข้าร่วมงานต่าง ๆ ว่า เขาก็บอกว่า ไม่เคยยกเลิกงานไหน และโต้กลับด้วยว่า แฮร์ริสไม่ไปร่วมงานไหนเลย เธอขี้แพ้ รวมทั้งอ้างว่า เขามีคะแนนนิยมเหนือแฮร์ริส เพราะชาวอเมริกันไม่ต้องการเธอ และเขากล่าวหาด้วยว่า เธอสอบเนติบัณฑิตไม่ผ่าน เธอไม่ใช่คนฉลาด เธอไม่ใช่คนที่จะเป็นตัวแทนของประเทศ

นอกจากนี้แฮร์ริส กล่าวขณะปราศรัยที่แกรนด์ แรพิดส์ ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผลลัพธ์ตามมามากที่สุดในช่วงชีวิตของชาวอเมริกัน และเป็นการแข่งขันระหว่างวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นอนาคต กับวิสัยทัศน์ของทรัมป์ที่เน้นเรื่องอดีต  และบอกด้วยว่า ทรัมป์ไม่มีแผนงานว่าจะตอบสนองความต้องการของประชาชนอเมริกันอย่างไร เขาเน้นแต่เรื่องตัวเอง

เธอยังโจมตีทรัมป์อีกครั้งว่า เขาปฏิเสธเข้าร่วมการดีเบตและยกเลิกการสัมภาษณ์ โดยทีมหาเสียงอ้างเหตุผลว่า ทรัมป์เหนื่อย ทำให้เกิดคำถามว่า ทรัมป์ยังแข็งรงพอจะทำงานที่หนักที่สุดในโลกได้หรือไม่

ขณะที่ผลสำรวจระดับประเทศของรอยเตอร์และอิปซอส พบว่าแฮร์ริสมีคะแนนิยมนำทรัมป์ลดลงจาก 7 จุดเปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 3 จุดเปอร์เซ็นต์

รัฐมิชิแกนมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 8.4 ล้านคน และผู้ชนะจะได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 15 คน ซึ่งคนเหล่านี้จะไปลงคะแนนเลือกประธานาธิบดี ใครได้รับคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียงจะเป็นผู้ชนะ ทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อเรียกคะแนนเสียงชาวอเมริกันอาหรับ, ผู้สูงอายุ แรงงาน และสมาชิกสหภาพแรงงาน