“วิสุทธิ์” ชงสภาฯถก "กม. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" 9 เม.ย.นี้

31 มีนาคม 256/8 ที่อาคารรัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเกี่ยวกับเนื้อหาร่างกฎหมายต่อวิปรัฐบาล และการประชุมสภาสัปดาห์นี้ในวันพฤหัสบดีที่3 เมษายนจะขอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเรื่องวาระมาพิจารณาในวันพุธที่ 9 เมษายน  ยืนยันไม่เป็นการดำเนินการเร่งรัดหรือรวดเร็ว  เพราะเรื่องนี้ได้พิจารณามานานแล้วตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน

“ถ้าตัดสินใจทำอะไรก็ต้องทำ ถ้าไม่ตัดสินใจเป็นการตัดสินใจที่ช้าก็จะไม่ได้ทำ เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องรอบคอบ สภาเป็นสถานที่ที่พิสูจน์ได้ว่าเรื่องไหนที่สำคัญเข้ามาให้ สส.ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลได้อภิปรายอย่างเต็มที่ให้ประชาชนรับฟังข้อมูลที่รัฐบาลได้นำเสนอมีประโยชน์กับประชาชนหรือไม่” นายวิสุทธิ์กล่าว 

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า การพิจารณาคาดว่าจะเป็นร่างของคณะรัฐมนตรี และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการลงมติรับหลักการเพื่อตั้งกรรมาธิการให้ศึกษาในช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ที่สุด 

พร้อมยอมรับว่า พรรคประชาชาติอาจจะมีความกังวลต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เนื่องด้วย พรรคประชาชาติเป็นพรรคของพี่น้องมุสลิม แต่มั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไรสุดท้ายจะมีการเจรจากัน ยืนยันไม่จำเป็นต้องหาเสียงที่อื่นมาโหวตสนับสนุน และชี้แจงเนื้อหาสาระของร่างกฎหมายดังกล่าวได้เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้จากการผลักดันเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ว่าสามารถสร้างรายได้มีงบประมาณสนับสนุนให้กับผู้สูงอายุ ขออย่าได้กังวล 

“หลายคนอธิบายผิดคิดว่าเปิดบ่อนการพนันเสรี ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง เอ็นเตอร์เทรนเมนท์คอมเพล็กซ์เป็นสถานบันเทิงครบวงจรที่ต้องทำ มีการพนันไม่เกิน 10% ของทั้งหมดจึงต้องชี้แจง  และไม่ได้เกิดทุกจังหวัด หลายคนไปตีข่าวใหญ่โตว่าเปิดทุกจังหวัดทุกอำเภอ อันนี้ก็เกินความจริงพี่น้อง คงจะมี2-3ที่ในประเทศนี้ ที่มีการก่อสร้างและทำให้นักท่องเที่ยว ไปสิงคโปร์เห็นว่านักท่องเที่ยวเยอะมากมีทั้งโรงแรมและศูนย์การค้า มีโชว์สารพัด การพนันมีเพียง 10% และไม่ใช่ว่าใครอยากจะเดินเข้าไปเล่นการพนันก็ได้” นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า รัฐบาลได้ทำรายงานศึกษาความเป็นไปได้แล้ว ซึ่งตั้งแต่การตั้งสภาชุดที่ 26 มีการตั้งคณะไปศึกษามาแล้ว 2 ปี และมีรายงานต่อสภา 

"พอจะตั้งเป้าก็มีข้อกล่าวหาแล้ว ต้องฟังข้อเท็จจริงเรื่องนี้มีพิจารณาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วที่จะทำ เราเห็นเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ที่ต้องทำ มีการศึกษาจากสภา หลายเดือนและชี้แจงในสภาผ่านมาเกือบ2ปีแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ว่ากฎหมายผ่านจะสั่งได้เลยก็ไม่ใช่ใช้เวลาเผลอเผลอถ้ารัฐบาลนี้ไม่ทันได้สร้างด้วยซ้ำ แต่การออกกฏหมายมาก่อนเพื่อรองรับก็เป็นเรื่องที่ดีวางแผนในอนาคต ถ้าคิดช้าทำช้าประเทศชาติก็ไม่ไปไหน" นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงข้อเสนอให้การทำประชามติเอ็นเตอร์เทนคอมเพล็กซ์ก่อนนั้นว่า เรื่องนี้ สส. ในฐานะผู้แทนของประชาชน ในสภาเกือบ 500 คน มาแสดงความคิดเห็น ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ เพราะต้องเสียเงิน 3,000 ล้านบาท หากต้องทำประชามติในเรื่องที่ไม่เห็นด้วยในหลายเรื่องและพร้อมรับฟังกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่าง โดยไม่กลัวว่าคนจะไม่เห็นด้วยหากกลัวว่าจะไม่ทำ 

นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งในนามของรัฐบาลจะเสนอญัตติด่วนเพื่อให้สภาพิจารณาเรื่องผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาถึงประเทศไทย และมาตรการการรับมือ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 10 มีนาคมนี้เสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา ซึ่งพรรคร่วมบาลเห็นตรงกัน