หน่วยกู้ภัยจากจีนช่วยผู้รอดชีวิต 4 คนจากซากปรักหักพังในเมืองมัณฑะเลย์ ของเมียนมาในวันนี้ หลังจากเดินทางถึงมัณฑะเลย์เมื่อค่ำวันอาทิตย์ โดยรายล่าสุดได้รับการช่วยเหลือจากซากตึกสกาย วิลลา คอนโดมิเนียมเมื่อเวลา 7.15 น.ของวันจันทร์ (31 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้านั้นหญิงตั้งครรภ์ และเด็กอีกคนได้รับการช่วยเหลือออกจากซากตึกเดียวกันนี้ในเวลา 6.20 น. และ 5.37 น. ตามลำดับ ขณะที่คาดว่ายังมีอีกหลายคนติดอยู่ในซากคอนโดมิเนียมหลังนี้ นอกจากนี้หน่วยกู้ภัยจีนยังช่วยหญิงคนหนึ่งที่ซากโรงแรมเกรท วอลล์ เมื่อเวลา 0.40 น.
ทีมกู้ภัยจีนยังช่วยชายสูงอายุจากซากโรงพยาบาลในกรุงเนปิดอว์ และผู้รอดชีวิตอีกคนที่มัณฑะเลย์ในวันอาทิตย์
นอกจากนี้ล่าสุดสถานทูตจีนในเมียนมา ยืนยันว่า มีชาวจีน 1 คน เสียชีวิต และอีก 15 คน ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว 7.7 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวันศุกร์
รัฐบาลทหารเมียนมารายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,700 คน และมีผู้บาดเจ็บ 3,400 คน และผู้สูญหาย 300 คน ขณะที่หน่วยกู้ภัยทั้งเมียนมาและนานาชาติยังคงทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้สูญหาย หลังจากผ่านโอกาสรอดชีวิตช่วง 72 ชม.แรกไปแล้ว
ส่วนหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานล่าสุดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 2,028 คนแล้ว
นอกจากนี้ชาวบ้านในเมืองสะกายเผยกับสื่อต่างชาติว่า ศพที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเริ่มส่งกลิ่นเหม็นท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมัณฑะเลย์เพิ่งมาถึงสะกายเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากสะพานอังวะอายุกว่า 90 ปี ที่เชื่อมระหว่าง 2 เมืองพังถล่ม โดยกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมามากกว่าผู้รอดชีวิต เขาบอกว่า เท่าที่รู้กู้ศพได้อย่างน้อย 90 ศพ และมีผู้รอดชีวิต 36 คน ได้รับการช่วยเหลือจากซากบ้านเรือน อาคาร และวัดที่พังถล่ม
พยากรณ์อากาศ คาดว่า ภาคกลางของเมียนมาจะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่านี้ในช่วงกลางวันตลอดทั้งสัปดาห์นี้ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แสดงความกังวลว่า ศพกำลังเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งบอกว่า เวลานี้ต้องการเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีความเชี่ยวชาญ และเครื่องจักรหนักเพื่อเคลื่อนย้ายเศษกซา รวมไปถึงสิ่งที่ต้องการเร่งด่วน คือ ถุงบรรจุศพ
ขณะที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยกระดับมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉินเป็นระดับสูงสุด พร้อมกับร้องขอเงินช่วยเหลือเร่งด่วนจำนวน 8 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้การรักษาช่วยชีวิต, ป้องกันโรคระบาด และฟื้นฟูบริการด้านสาธารณสุขที่จำเป็นในช่วง 30 วันข้างหน้า
นอกจากนี้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ บอกว่า การช่วยเหลือและให้การรักษาผู้บาดเจ็บเป็นภารกิจสำคัญในเวลานี้ ควบคู่กับการทำให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยมีน้ำสะอาดเพื่อป้องกันโรคระบาด