"ทัพภาค 3" แจงปมชายแดนไทย-ว้า ย้ำ ความสัมพันธ์อยู่ในระดับดี ใช้ชีวิตได้ปกติ
"กองทัพภาค 3" แจงปมชายแดนไทย-ว้า ย้ำ ความสัมพันธ์อยู่ในระดับดี ใช้ชีวิตได้ปกติ ชี้การเคลื่อนย้ายกำลังฝ่ายไทยแค่ฝึกตามวงรอบ ขอประชาชนรับฟังข่าวจากภาครัฐ ไม่ส่งต่อข้อความเป็นเท็จ "โฆษก กต." ยันใช้กลไก JBC แก้ปัญหา
19 ธันวาคม 2567 เวลา 17.30 น. กองทัพภาคที่ 3 ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงประเด็นความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน จ.เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติ ประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ส่วนความสัมพันธ์ตามแนวชายแดนยังคงอยู่ในระดับที่ดีต่อกัน ไม่ปรากฎความขัดแย้ง
ขณะที่ การเคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์ทางทหารในปัจจุบัน เป็นไปตามวงรอบการฝึกประจำปีของหน่วยอย่างปกติ เช่น การฝึกหมู่ - ตอน - หมวด , การฝึกภาคกองร้อย และการฝึกภาคกองพัน เป็นต้น
ทั้งนี้ การเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และความวุ่นวายในสังคม จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารอันเป็นข้อเท็จจริงจากหน่วยงานของทางราชการเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และประชาชนชาวไทยอย่างดีที่สุด
โฆษก กต.ยันใช้กลไก JBC แก้ปัญหาว้าแดงตั้งฐานในไทย
"นายนิกรเดช พลางกูร" อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีกองทัพกลุ่มว้าแดง จะเคลื่อนฐานทัพออกจากพื้นที่ชายแดนไทยตั้งแต่ 18 ธันวาคม แต่ปัจจุบัน 19 ธันวาคมแล้วว่า ในเรื่องนี้ ทั้งไทย และเมียนมา เห็นพ้องกันว่า จะมีการกลับไปใช้กลไกเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยจะมีการหารือทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกัน จะกลับไปใช้กลไกชายแดน ผ่าน คณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee: JBC ไทย-เมียนมา พร้อมปฏิเสธว่า กรณีกลไกชายแดนนั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือลูกเรือประมง เพราะเป็นคนละกรณีกัน ซึ่งกรณีการช่วยเหลือลูกเรือประมงนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้รับการยืนยันจากการเมียนมาว่า จะมีการปล่อยตัวโดยเร็ว ซึ่งไทยก็เคารพในกระบวนการภายในของเมียนมา
ชมคลิป >>> นิกรเดช พลางกูร" อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าว