19 ธันวาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ว่า เป็นภารกิจและเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งผู้มีอิทธิพลไม่ได้หมายถึงเพียงผู้มีหรือพกอาวุธปืน อย่างเดียว แต่รวมไปถึงเรื่องของยาเสพติด การพนัน การค้าประเวณี ค้ามนุษย์ แหล่งมั่วสุม
ซึ่งเมื่อวานนี้ทางฝ่ายปกครองก็ลงพื้นที่ไปจับบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า ที่จ.พัทลุง มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งการที่สามารถไปจับกุมสิ่งผิดกฎหมายได้มากที่ จ.พัทลุง แสดงให้เห็นว่า เราได้ไล่จับทั้งในเมืองใหญ่ เมืองรอง จนคยร้ายต้องนำไปแอบซ่อนที่ จ.พัทลุง ดังนั้น ไม่ว่าจะไปพบเจอที่ไหนเราก็จะดำเนินการ
ส่วนผู้มีอิทธิพลที่มีลักษณะนิสัยนักเลงทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ก็ได้มีการร่วมมือ และพูดคุยมาโดยตลอดกับทางตำรวจและ ฝ่ายความมั่นคง รวมถึงผู้ที่พกพาอาวุธปืนและอาจจะมีการนำไปทำร้ายผู้อื่นก็จะถูกลงโทษด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้มีการดำเนินการไปมากแล้ว
นายอนุทิน ยังย้ำว่า เรื่องของการปราบปรามอิทธิพล มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเป็นประจำอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการที่คนจะมองว่า หากนายกฯ ลงมาดูแลเรื่องปราบปรามอิทธิพลจะเป็น ก้าวก่ายงานของกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทินบอกว่า ไม่เลย และขอให้เข้ามาช่วยกันเยอะๆ ยิ่งดี
ขออย่านำเหตุการณ์ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำอย่างเช่น ที่จังหวัดปราจีนบุรี แล้วมาบอกว่า ทางเราไม่มีการดำเนินการ เพราะนั่นเป็นเรื่องที่พวกเขามีความขัดแย้งกัน ไม่ได้ออกมาเดินสร้างความเดือดร้อนให้คนภายนอก
ขณะที่วันนี้ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค2 ได้รับคำสั่งจาก พลตำรวจตรีธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค2 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองด้านสิ่งแวดล้อม โดยการเข้าตรวจค้นบ้านหลังนี้ สืบเนื่องจากจากการระดมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และแนวทางการสืบสวนทราบว่า เป้าหมายดังกล่าวมีอาวุธหลายกระบอก และเกี่ยวข้องกับการนักเมืองในพื้นที่ แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับคดี สจ.โต้ง โดยตรง จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ
ซึ่งจากการตรวจค้น พบ
-อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก
-ปืนยาว .22 จำนวน 3กระบอก
-เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 81นัด
-เครื่องกระสุนปืน ยี่ห้อ STANDARD VELOCITY 22 LR ขนาด .22 จำนวน 17 นัด
-เครื่องกระสุนปืน ยี่ห้อ STINGER 22 LR ขนาด .22 จำนวน 50 นัด
-เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. รวม จำนวน 164นัด
-เครื่องกระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 7 นัด
ซึ่งพบว่ามีใบอนุญาต มีทะเบียนปืนถูกต้อง 4กระบอก แต่ขนาด 9มม. เป็นปืนผิดมือ คือ ชื่อเจ้าของปืนไม่ตรงกับผู้ครอบครอง 1กระบอก
ส่วนอาวุธปืนปืนยาว .22 ยี่ห้อ CZ จำนวน1กระบอกพร้อมซองกระสุน 1อัน ลูกปืน .22 จำนวน 61 นัด พบว่า ไม่มีใบอนุญาต โดยตำรวจยึดอาวุธปืนทั้งหมดไว้เป็นของกลาง และยึดไว้ตรวจสอบทั้งหมด และนำตัวนายสุเมธ มาที่ สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อแจ้งข้อกล้าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต”
ด้าน นายสุเมธ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหตุผลที่ตำรวจมาตรวจค้น และเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะตนเองก็อยู่ในฝ่ายที่ต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้มาตลอด และถือเป็นเรื่องดีที่มีการตรวจค้น เพราะตนจะได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย ส่วนอาวุธปืน ยืนยันว่า เป็นการมีอาวุธตามปกติ ที่มีทะเบียนพร้อม อยู่ในบ้านและในห้อง ปืนเป็นของพี่ชายและของพ่อ และมองว่า การเข้าตรวจค้นคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น แต่มองว่าเกี่ยวข้องกับคนจีนเถื่อน กับเรื่องปัญหาสิ่งแสดล้อม จึงทำให้ตนเองขับเคลื่อนการต่อต้าน
ทั้งนี้ไม่ได้กังวลว่า จะถูกนำไปเชื่อมโยงกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฏิบัติต่อเราอย่างดีมากในการเข้าตรวจค้น และตรวจค้นอย่างสุภาพ ชี้แจงสิทธิทั้งหมด
ส่วน โกทร กับ สจ.โต้ง เคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว และยอมรับว่า รู้สึกกังวลในการเลือกตั้งใจนายก อบจ.ปราจีนบุรี ว่าจะเกิดกับทีมงานของตนเองหรือไม่ หลังเกิดความรุนแรง แต่หวังว่า พวกเราจะปลอดภัยในการหาเสียง เพราะเราไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับคนอื่น สิ่งที่ทำคือนโยบายที่มาจากประชาชน “เราใช้นโยบายในการต่อสู้ ไม่ได้ใช้อิทธิพล ไม่ได้ใช้เงินแจก
พร้อมฝากสื่อสารด้วยว่า พรรคประชาชน ต่อสู้ด้วยนโยบายและเรื่องของการจะทำอย่างไร ให้การเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใสและสุจริตมากที่สุด และไม่ได้มองว่า การเข้าตรวจค้นเป็นการถูกกลั่นแกล่งจากฝ่ายการเมือง
สำหรับ นายสุเมธ พบว่า เป็นประธานสาขาพรรคประชาชน และเป็นผู้สนับสนุนนายจำรูญ สวยดี ลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคประชาชน ด้วย โดยขณะตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน นายสุเมธ ได้สวมใส่เสื้อที่มีข้อความว่า ‘We love people เราคือประชาชน’ และด้านหลังเสื้อมีโลโก้ของพรรคประชาชน