22 ตุลาคม 2567 "นายวีระ สมความคิด" ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊กว่า สำเร็จไปอีกขั้น วันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว
19 ธ.ค. 67 เวลา 09.00 น. นัดตรวจพยานเอกสาร
22 ม.ค. 67 เวลา 09.00 น. นัดไต่สวน "นายวีระ สมความคิด" เพียงปากเดียว เนื่องจากพยานหลักฐานอื่นชัดเจนตามพยานเอกสารราชการทั้งหมดแล้ว
ขณะที่ "นายไพศาล พืชมงคล" นักกฎหมายระบุว่าด่วนมาก
ใกล้(คุก)เข้าไปอีกนิด
เมื่อเช้าวันนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตภาค1มีคำสั่งรับคำฟ้องในคดีที่นายวีระ สมความคิด ฟ้อง ปปช.ทั้งคณะหลายกะทง
และนัดไต่สวนคดีในวันที่ 22 มกรา 68 โดยนัดตรวจเอกสารก่อนวันที่ 19 ธันวาคมนี้
อนึ่ง สำหรับคดีนี้ "นายวีระ" เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ให้ดำเนินการกับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำเลยที่ 1,"นายวรวิทย์ สุขบุญ" อดีตเลขาธิการ "ป.ป.ช." จำเลยที่ 2 กับจำเลยรายอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 12 คน
เนื่องจากทั้ง 12 คนมีส่วนในการปกปิดเอกสารการครอบครองนาฬิกาหรูของ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ครั้งเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
โดยมีรายงานข่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2566 ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติข้างมาก 5 ต่อ 1 เสียง ไม่เปิดเผยข้อมูลคดีดังกล่าว และเห็นควรให้ทำหนังสือถึงศาลปกครองสูงสุดทบทวนว่าข้อมูลส่วนใดที่สามารถเปิดเผยได้ ข้อมูลส่วนใดไม่สามารถเปิดเผยได้อีกครั้ง
ทำให้"นายวีระ"ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ปรับผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง (สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2) เป็นเงินขั้นต่ำสุด 5,000 บาท และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองปฏิบัติตามคำพิพากษา