"ไผ่" ไม่ทน ลั่นฟันนักการเมืองปมตบทรัพย์"ดิไอคอน"

17 ตุลาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา "นายไผ่ ลิกค์" สส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงในการเรียกรับผลประโยชน์ จากคณะกรรมาธิการ สภาฯ ปม ดิไอคอนกรุ๊ป  ว่า "ไม่สามารถ" ที่จะพูดได้ ว่าเป็นใคร แต่ขอบอกว่าทุกวันนี้ อย่างที่เห็น ทุกภาคส่วน ได้คุยกันนอกรอบ ว่าจะเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเสื่อมเสียทั้งสภา และองค์กรปล่อยให้คนอย่างไม่ได้ “เราต้องทำให้จบในรุ่นเรา” ถ้ามีการเรียกรับผลประโยชน์ทำแบบนี้ วันนี้เราต้องร่วมมือจากทุกพรรค ทุกคน 

ส่วนจะเรียกร้องไปยังพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ "นายไผ่" กล่าวว่า ค่อยๆ ไปทีละก้าว เพราะเราไม่สามารถไปยุ่งอะไรได้ แต่ ณ วันนี้ คงไม่มีใครอุ้มชูคนผิด เพราะวันนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก คนไม่รู้บางคนคิดถึงฆ่าตัวตาย ซึ่งวันนี้ก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อเยียวยาคนเหล่านั้นได้ และให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งก็ต้องขอชมตำรวจทำงานได้รวดเร็วมาก พวกเราจะประคองจนกว่าผู้เสียหายทั้งหมดใจได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่แค่การทำตามกระแส 

ส่วนบอสที่อยู่เบื้องหลังดิไอคอนกรุ๊ปที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนการเมืองนั้น  นายไผ่ กล่าวว่า "ถ้าหลักฐานคือใคร เอาแน่! ผมชัดเจน พูดตรง ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม 

ผู้สื่อข่าวถามว่าคลิปเสียงดังกล่าวสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวบุคคลได้หรือไม่  "นายไผ่" กล่าวว่า สามารถใช้ได้ แต่ไม่สามารถ พูดได้  

ส่วนตัวมองว่ากรณีนี้เป็นการแอบอ้าง ไม่มีหรอกที่จะมาพูดกับทุกพรรคได้ มาเคลียร์คดีอย่างนี้ วันนี้ข้างเดียวคืออยู่ข้างพ่อแม่และพี่น้องประชาชน ส่วนจะทำให้พรรคเสื่อมเสียหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าบริบททางการเมืองเป็นอย่างไร ไม่มีพรรคการเมืองไหนจะฆ่าตัวตายแบบนี้แต่ก็ต้องให้เวลาเขาพิสูจน์ตรวจสอบ แต่เร็วช้าอยู่ที่พี่น้องประชาชน

กมธ.สคบ.เชิญ สอบสวนกลาง-สคบ.อัพเดตสถานการณ์ The Icon

วันเดียวกัน ที่อาคารรัฐสภา "นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา" สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเชิญผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และตำรวจสอบสวนกลาง มาหารือในกรณี"The Icon"ว่า เป็นการเชิญมาเพื่อสอบถามว่าขณะนี้ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว และอยากให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือทันที เร่งด่วน เด็ดขาด เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความวิตกไปมากกว่านี้

โดยในแง่ของรายละเอียดภาพรวมอยากให้ประชาชนคนไทยที่เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้รับ การช่วยเหลือแก้ไขและได้รับการคืนเงินให้โดยเร็วที่สุด เพราะมีหลายครอบครัวที่ลำบากมาก เช่นการโกรธเคืองกันในครอบครัว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทย เพราะจากที่ดูในสื่อ "ผู้บริหาร The Icon"มีทรัพย์สินจำนวนมาก ถ้าหากนำส่วนนั้นมาเร่งช่วยเหลือทุกคน ก็คงไม่เกินกำลัง พร้อมยืนยันว่าการประชุมวันนี้ จะมีประโยชน์กับภาครัฐและประชาชนที่โดนเอารัดเอาเปรียบ

ส่วนเรื่องคลิปเสียงของคนที่อ้างว่าเคลียร์กรรมาธิการได้นั้น นางบุญยิ่งกล่าวว่า สุดท้ายเราต้องรู้ ว่าเป็นใคร วันนี้สิ่งที่เป็นเรื่องผิดก็ต้องผิด หากไม่ผิดก็ไม่ผิด ซึ่งช่วงหนึ่งมีการพาดพิงถึงกรรมาธิการ รวมถึงกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย โดย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาในกมธ.ชุดนี้ และในวันนั้นกมธ.ก็ได้ส่งให้สคบ.พิจารณา และมีการไกล่เกลี่ยเงินชดเชยชดใช้ให้เป็นที่พอใจของผู้ร้องและจบด้วยดี

ส่วนเรื่องคลิปเสียง "ถ้าดิฉันพูดตอนนี้จะรู้ว่าเป็นใคร ดิฉันเชื่อว่าเดี๋ยวดิฉันจะโดนฟ้อง ดิฉันขอเวลาให้เรื่องนี้กระจ่างกว่านี้ ตอนนี้หากพูดไปจะพาดพิงเขา เพราะมันชัดเจนเกินไป เหมือนเป็นการรังแกเขา" นางบุญยิ่ง กล่าว 

ขณะที่ "นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์" สส.พรรคประชาชน กล่าวเพิ่มเติมว่าตนเองอยู่กรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สมัยที่ 2 แล้ว และเคยมีเรื่องร้องเรียนกรณี "The Icon" เข้ามาแล้วเช่นเดียวกัน ในสมัยที่แล้วมีการไกล่เกลี่ยและจบไป แต่ประเด็นที่จะพิจารณาวันนี้คือการถามหน่วยงานราชการ และสคบ.น่าจะมีคำตอบให้เรา ซึ่งในภาพรวมที่มีข่าวออกไป อาจจะทำให้ภาพของสคบ.เสื่อม เพราะ สคบ.เป็นองค์กรที่มีบุคลากรที่มีความรู้ และน่าเชื่อถือเยอะ อาจจะมีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไปแอบอ้าง เราเชื่อว่าจะได้ตัวจริงของคนที่รับจดทะเบียน ตัวจริงที่รับเรื่องร้องเรียน แล้วพัวพันกับผลประโยชน์บริษัทดิไอคอนแน่นอน 

ส่วนเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่า"The icon" ทำธุรกิจตามที่ได้จดทะเบียนไว้ นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้ว สคบ.ได้วินิจฉัยแล้วว่าบริษัท"The Icon" ทำธุรกิจไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติในสคบ.ทาง"The Icon" ได้มีการไปยื่นขอจดทะเบียนใหม่ จึงไม่ได้เอาเรื่องเก่าขึ้นมาประกอบการพิจารณาของคนที่อนุมัติให้จดทะเบียน

"นายประเสริฐพงษ์" ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นหลักที่จะที่ถามคือเรื่องเทวดาหรือลูกกรอกในสคบ. ซึ่งคาดว่าน่าจะได้คำตอบแน่นอนเพราะเอกสารทางราชการมีอยู่ชัดเจน และพอที่จะเปิดเผยได้หลังจากการประชุม ซึ่งเรื่องนี้คิดว่า เป็นความผิดพลาดของหน่วยงานราชการบางหน่วยเท่านั้น และเป็นจุดบกพร่องของผู้ปฏิบัติงานบางคน อาจจะทำให้องค์กรเสียหาย แต่วันนี้ได้มีตัวแทนขององค์กรในระดับผู้บริหารมาก็น่าจะทำให้กระจ่างได้ไปเยอะ

พร้อมยืนยันว่าฝ่ายการเมืองคงไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พวกนี้หากเข้าไปคงโดนแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานในสภาฯ​ชุดที่ผ่านมา มีการตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งใน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ที่มี"นายมานะ โลหะวณิชย์ สส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดยช่วงเดือน ม.ค. 2566  มีหญิงรายหนึ่งมาร้องเรียนว่า "บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด" ไม่ได้ดำเนินการตามสัญญา ชักชวนให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า จากนั้นเรื่องดังกล่าวได้ถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมในชั้นอนุกรรมาธิการ ที่มี"นางมนพร เจริญศรี" สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นประธานอนุกมธ.