svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

3 คนดัง เข้าพบตำรวจ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยไลฟ์สดกับ "แม่ตั๊ก"

3 คนดัง "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่นบอล,บอล เชิญยิ้ม ,บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. พร้อมส่งทรัพย์สินให้ตรวจสอบ แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยร่วมงานกับ "แม่ตั๊ก" ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

วันที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 10.00น. ที่กองบังคับการปราบปราม นางสาวรัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น พร้อมด้วยนายชัชชัย จำเนียรกุล หรือ บอล เชิญยิ้ม นาย ธิติวุฒิ วารุณ หรือ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ เดินทางมาพร้อมกับ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ และนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เพื่อเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันความบริสุทธิ์หลังจากเคยร่วมงานกับ นางกรกนก สุวรรณบุตร หรือ “แม่ตั๊ก” พร้อมกับนำทรัพย์สินมีค่าที่เคยได้รับจาก “แม่ตั๊ก” และ นายเบียร์ (สามี) มาส่งมอบให้กับตำรวจ เพื่อตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงินว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่

“เจนนี่” กล่าวว่า หลังจากที่พฤติกรรมของ “แม่ตั๊ก” ถูกแฉ เธอก็ถูกกระแสในโซเชียลมีเดีย ถล่มอย่างหนัก จึงอยากออกมาเคลียร์ทุกอย่างโดยเร็วที่สุด แต่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะยังติดสัญญาพรีเซนเตอร์อยู่ กลัวว่าจะผิดสัญญา และแม้จะรู้จักกันมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมา ก็เชื่อโดยสนิทใจมาตลอดว่า “แม่ตั๊ก” ร่ำรวยจริง พอหลังเกิดเรื่องก็ได้นำทรัพย์สินเป็นกำไลที่ได้รับมาจาก “แม่ตั๊ก” มาให้ตำรวจตรวจสอบว่า เงินที่นำมาซื้อกำไลนี้ เป็นเงินบริสุทธิ์ หรือ เป็นเงินผิดกฎหมาย หากเป็นเงินผิดกฎหมาย เธอก็ยินดีที่จะคืนทรัพย์สินเหล่านี้

ขณะที่ "บอล เชิญยิ้ม" กล่าวว่า แม้ไม่อยู่ในรายชื่อดาราที่ร่วมไลฟ์ขายทองกับ “แม่ตั๊ก” แต่ก็เคยร่วมงานไลฟ์ขายโกโก้ โปรตีน อาหารเสริมของแม่ตั๊ก เคยไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และงานคอนเสิร์ต ช่วงปี 2565 ตนเองจึงไม่อยากอยู่เฉย ขอออกมาแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมยืนยันไม่ได้สนิทสนมกับ “แม่ตั๊ก” นอกเหนือจากงานที่รับ ไม่มีไปกินข้าวกันเป็นการส่วนตัว และไม่เคยรับสิ่งของอื่นใด นอกจากค่าตัวครั้งละ 1 แสนบาท และที่ยอมรับงานไลฟ์ ก็เพราะพิจารณาแล้วว่ามีคนเคยไปร่วมไลฟ์จำนวนมาก จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น และพร้อมจะคืนเงินค่าตัวทั้งหทด เพื่อให้นำเงินดังกล่าวไปเยียวยาผู้เสียหาย

ด้านทนายไพศาล เปิดเผยว่า เงินและทรัพย์สินที่กลุ่มดารา และอินฟลูเอนเซอร์ นำมาวันนี้ เป็นเงินที่เหล่าดาราและอินฟลูเอนเซอร์ได้มาอย่างสุจริต ตรวจสอบได้ และเป็นการส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ใช่การนำมาคืน เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็จะทำเรื่องร้องขอคืนภายหลัง

ส่วนดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่รู้ตัวว่า มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยังไม่มาพบตำรวจ ก็ขอให้รีบมาพบ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมแนะนำด้วยว่าดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่จะรับงานไลฟ์สด เพื่อขายสินค้าทางออนไลน์หลังจากนี้ ให้ระมัดระวังว่าจะเข้าข่ายลักษณะกู้ระดมทุนในการฉ้อโกง หรือแชร์ลูกโซ่ แนะนำให้ไปจดทะเบียนกับ สคบ. ให้ถูกต้อง ส่วนคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำบุญ สามารถทำได้ แต่อย่านำมาใช้หาประโยชน์ในทางธุรกิจ  เพราะการให้เงินสดกับผู้อื่น ทำให้ผู้รับไม่ทราบที่มาที่ไปของเงิน

อย่างไรก็ตาม ศิลปินดาราระบุว่า นี่คือกรณีตัวอย่างที่ต่อไปนี้จะระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น และต้องรับผิดชอบต่อสังคมโดยการตรวจสอบให้ถี่ถ้วน แม้จะตรวจสอบได้ไม่หมดแต่ก็จะพยายามตรวจสอบเท่าที่ทำได้