30 สิงหาคม 2566 เกิดเหตุโจรอ้วนผอม บุกยิงเหยื่ออย่างเหี้ยมโหด ก่อนชิงสร้อยทองคำถึงในห้องนอน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.อนุรุต นวมทอง รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีประจันต์ ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่ภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรภพ จำปาเงิน ผกก.สภ.ศรีประจันต์ พ.ต.อ.พีระ อัศวะพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ชุดสืบสวน สภ.ศรีประจันต์ ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, สืบสวน ภ.7 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี แพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์ และ มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำส่วน ด้านหลังเป็นห้องนอนและห้องครัว ภายในห้องนอน พบร่างนายวันเฉลิม สายหยุด อายุ 42 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณกกหูขวา กระสุนปืนไปตุงอยู่ที่บริเวณลำคอ 1 นัด สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนปิกนิก ที่พื้นภายในห้องนอน เลือดไหลเต็มที่นอนเสียชีวิตคาที่ พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายมีรูปร่างเป็นโจรอ้วนผอม ชายคนหนึ่งตัวอ้วนร่างใหญ่ อีกคนตัวผอม ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน โดยคนร้ายใช้หมวกผ้าคลุมหัวปกปิดใบหน้า บุกเข้ามาภายในบ้านและเดินเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียชีวิตแบบไม่สะทกสะท้าน ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตกำลังนอนพักนอนดูทีวีอยู่อยู่กับภรรยาและลูกชายวัย 6 ขวบ
คนร้ายได้มาถามผู้เสียชีวิตว่า ทองอยู่ไหน คนตายคิดว่าเป็นเพื่อนมาหยอกล้อ จึงบอกว่า "กูไม่สบาย กูจะนอน" จากนั้นคนร้ายจึงใช้ปืนที่ติดตัวมายิงใส่ 2 นัด จนเสียชีวิตคาที่ และได้หยิบสร้อยทองคำหนัก 5 บาทของภรรยา 1 เส้น และสร้อยทอง 2 บาทของนายวันเฉลิม 1 เส้น ที่แขวนอยู่ที่หัวเตียงนอนแล้วหลบหนีออกไป
ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ในห้องนอนรวมกับสามีและลูกชาย อยู่ภายในห้องนอนด้วย และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และคนร้ายก็ถามว่า ทองอยู่ไหน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีก 1 นัด ซึ่งตนเองสายตาสั้นมองไม่เห็น พอหาแว่นเจอและหันมาดูก็พบสามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
นายกุศ รักสนิท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 กล่าวว่า ได้รับแจ้งประมาณ 20.30 น. ผู้ตายเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ชอบเลี้ยงไก่ชน แม่คนตายโทรมาแจ้ง ร้องไห้บอกให้มาที่ร้านเร็วๆลูกตายแล้ว เมื่อมาถึงพบว่า มีของหายเป็นสร้อยทองคำ 2 เส้น รวม 7 บาท ผู้ตายเป็นคนดีกับเพื่อนฝูงและคนในหมู่บ้าน
จากที่เห็นกล้องวงจรปิดคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ ขี่รถจักรยานยนต์มา คนที่มายิง เป็นคนตัวใหญ่ท้วม พอมาถึงก็ยืนคร่อมผู้ตาย แล้วเอาปืนจ่อ พอผู้ตายตื่นมาก็พูดว่าวันนี้กูไม่เล่นกับมึง วันนี้ไม่สบายจะนอน จากนั้นคนร้ายก็ยิงแล้วก็ถามว่าทองอยู่ไหน คนร้ายทำท่าว่าจะหันปืนมายิงภรรยาเขาด้วยแต่ไม่ได้ยิง
นายกุศ กล่าวอีกว่า ตอนคนร้ายมาถึงเดินเข้าไปตรงดิ่งไปที่ห้องเลย แล้วยิง ซึ่งในบ้านนี้มีอยู่หลายห้อง น่าจะเป็นคนที่เคยเข้ามา อาจจะเจตนาที่เอาทองไปเอาไปแค่บังหน้า ทำเหมือนมาปล้นทอง ซึ่งก็ต้องรอให้ทางตำรวจสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
นางทองฮวด ชาวน่าน อายุ 70 ปี แม่นายวันเฉลิม กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเข้าไปที่ครัวกำลังจะทำไก่นึ่ง ทีแรกได้ยินเสียงดังเหมือนอะไรหล่นจากนั้นได้ยินครั้งที่สองก็คิดว่าลูกชายคนโตจุดประทัด เพราะหลานร้องก็ยังเอ็ดว่าจะจุดทำไม จากนั้นก็เดินออกมาจากครัวก็เห็นลูกสะใภ้วิ่งออกมาจากห้อง เข้ามากอดแล้วพูดว่า "แม่พี่หารโดนยิง" เราก็ไม่คิดว่าใครจะเข้ามายิง นึกว่าลูกยิงตัวเองเพราะไม่เห็น
"ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว ยังไปเรียกลูกว่าให้ไปปิดบ้านให้แม่ด้วย แม่จะเข้าไปนึ่งไก่ จากนั้นไม่ถึง 10 นาทีลูกก็ถูกยิง"
นางทองฮวด กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเย็นลูกก็ออกไปซื้อของและไปเอาของไหว้ที่บ้านแม่ยาย ซึ่งตอนเช้าลูกบอกว่าวันนี้ไม่สบายให้แม่ไปซื้อของมาไว้เจ้าด้วยนะ แต่ไปซื้อแล้วในตอนเช้าได้ของไม่ครบ ตอนเย็นเขาก็ไปด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูกไปซื้อของมาเพิ่ม จากนั้นเขาก็กินยาแล้วก็นอนอยู่ในห้องกับลูกเมียก็อยู่ด้วยในห้อง ซึ่งปกติถ้าคนอื่นมาหาก็จะมาบอกให้เรียกให้ ถ้าว่างจากขายของเขาก็จะเลี้ยงไก่ชนขาย
ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร พี่น้องน้องชาวบ้านแถวนี้เขาก็รักกันดี ซึ่งก็ไม่คิดว่าลูกจะมีอะไรกับใคร ที่มันจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ เพราะลูกมีแต่คนรัก ไม่คิดว่าจะมีคนคิดร้ายกับลูกขนาดนี้ อยากให้ตำรวจรีบจับคนร้ายให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าที่ทำไปเพื่ออะไร อยากได้อะไรก็เอาไปเลย ขอแค่เรื่องอย่าเอาชีวิต ถ้าจับคนร้ายได้จะไม่เอาโหสิกรรมให้ใครทั้งสิ้น
เบื้องต้นตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆในหมู่บ้านที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป พร้อมกันนี้ก็ได้ให้กู้ภัยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิฐานว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว เพราะผู้ตายเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ และเป็นที่รักใคร่ของคนในพื้นที่ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง