svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Sustainable

ศาลสั่งถอนใบอนุญาต โรงงานยางพาราสหกรณ์ฯ บ่อทอง หลังก่อมลพิษ ทำชาวบ้านป่วย

ประชาชนได้สุขภาพดีกลับคืนมา ศาลปกครองสูงสุด สั่งเพิกถอนใบอนุญาต โรงงานยางพาราสหกรณ์กองทุนสวนยางบ่อทอง หลังก่อมลพิษทำชาวบ้านในพื้นที่ล้มป่วย มานานกว่า 6 ปี

15 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ให้เพิกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ รง.4  เฉพาะส่วนที่อนุญาตให้สหกรณ์กองทุนสวนยาง อำเภอบ่อทอง จำกัด ก่อสร้างอาคารในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน หมู่ที่ 7 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี แปลงเลขที่ 3 เนื้อที่ 47 ไร่ 79 ตารางวา  และแปลงเลขที่ 4 เนื้อที่ 41 ไร่ 32 ตารางวา

และให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ที่ (สรข.3) 02-29/2558 ทะเบียนโรงงานเลขที่ 3 - 52(3) – 32/58 ชบ ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2558 เฉพาะส่วนของโรงงาน ที่ตั้งอยู่ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน หมู่ที่ 7 ต.บ่อทอง อ.บ่อบ่อทอง จ.ชลบุรี แปลงเลขที่ 3 เนื้อที่ 47 ไร่ 79 ตารางวา และแปลงเลขที่ 4 เนื้อที่ 41 ไร่ 32 ตารางวา โดยให้มีผลนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา 
ศาลสั่งถอนใบอนุญาต โรงงานยางพาราสหกรณ์ฯ บ่อทอง หลังก่อมลพิษ ทำชาวบ้านป่วย

ตามที่ชาวบ้านบ้านหนองใหญ่-ทับสูง หมู่ที่ 1 ,3 และ 7 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี  จำนวน 61 ราย ร่วมกับสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นฟ้องนายก อบต.บ่อทอง , อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี , อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม , ปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรี ,สหกรณ์กองทุนสวนยางอำเภอบ่อท่อง จำกัด , อบต.บ่อทอง และคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรี ต่อศาลปกครอง ว่า ร่วมกันอนุมัติโครงการก่อสร้าง และการประกอบกิจการโรงงานผลิตยางพาราอัดแท่ง STR 20 ของสหกรณ์กองทุนสวนยางอำเภอบ่อทอง จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดมลพิษ มีกลิ่นเหม็นรุนแรง แสบจมูก ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2554 ศาลปกครองกลาง ได้เคยมีคำพิพากษา ให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารหรือรื้อถอนอาคาร เฉพาะส่วนที่อนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร ที่ตั้งในเขตปฏิรูปที่ดิน  และให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ไม่ชอบด้วย แต่ทว่าอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า คำพิพากษาดังกล่าว ได้สร้างความดีใจกับชาวบ้านบ้านหนองใหญ่-ทับสูง อย่างมาก เพราะทนทุกข์ทรมานมากับมลพิษ กลิ่นเหม็น ของโรงงานดังกล่าว มากว่า 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ เป็นบรรทัดฐานที่สำคัญ ที่ชี้ให้เห็นถึงการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

ซึ่งชาวบ้านที่รวมตัวกันประท้วงการก่อสร้าง และการประกอบกิจการโรงงานผลิตยางพาราดังกล่าว มาตั้งแต่ต้น จึงได้ร่วมกันเดินทางนำหลักฐาน คำพิพากษาศาลปกครองกลางดังกล่าว ไปร้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2554 เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดบุคคล ที่เซ็นใบอนุญาตก่อสร้างฯ และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแล้ว เพื่อไม่ให้ใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในอนาคตต่อไปอีก