svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดใจ"เชฟบุญธรรม"ขอออกจากครัวสู่งานการเมืองช่วยเกษตรกรสร้างรายได้

เริ่มนับถอยหลังสู่โหมดเลือกตั้ง โดยเฉพาะแต่ละพรรคต่างเริ่มทยอย เปิดตัวผู้สมัครซึ่งคัดสรรดีกรีมาเป็นอย่างดี ที่สามารถครองใจประชาชน เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่กระบอกเสียงให้กับชาวบ้าน

เช่นเดียวกับ "บุญธรรม ภาคโพธิ์" หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดี "เชฟบุญธรรม" ซึ่งได้เปิดใจกับ "เนชั่นทีวี" ที่ยอมออกจากห้องครัวเข้าสู่สนามการเมืองแบบเต็มตัว ในนามว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สังกัด พรรคไทยสร้างไทย เขต 6 จ.อุบลราชธานี 

 

เปิดใจ\"เชฟบุญธรรม\"ขอออกจากครัวสู่งานการเมืองช่วยเกษตรกรสร้างรายได้

 

โดย "เชฟบุญธรรม" เล่าว่า การได้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองครั้งนี้ เพราะเป็นลูกชาวบ้านตัวเล็กๆ และเคยขาดโอกาสมาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งชีวิตได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับอาหาร จึงใช้ความมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือ จนสามารถสร้างตัว และครอบครัวให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้ในปัจจุบัน

 

"เชฟบุญธรรม" ยังเล่าต่อว่า วันนี้ตนจึงอยากกลับมาสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิต ให้กับคนชาวบ้านที่หลายคนยังประสบปัญหายากลำบาก ดังนั้น จึงมองว่า "การเมือง" น่าจะเป็นเวทีที่จะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากกว่าบทบาทอื่น 

 

เปิดใจ\"เชฟบุญธรรม\"ขอออกจากครัวสู่งานการเมืองช่วยเกษตรกรสร้างรายได้

 

อย่างไรก็ดี เมื่อได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในพื้นที่ อย่าง "สิทธิชัย โควสุรัตน์" อดีต รมช.มหาดไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานกลุ่มสร้างอุบลฯ ที่ต้องการสร้างการพัฒนาพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ให้ต่อเนื่อง โดยสนับสนุนให้ผมได้เข้ามาดูแลประชาชนในพื้นที่ เขต 6 จ.อุบลราชธานี ในการลงสมัครผู้แทน

 

"ที่สำคัญที่ผมเลือกสังกัดพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นหัวหน้าพรรคนั้น  เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองที่มองเห็นความสำคัญของชาวบ้านตัวเล็กๆ  และมุ่งที่จะให้โอกาส รวมทั้งเป็นพรรคที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย มุ่งสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ เพื่อไม่ให้กลับมาอยู่ในวังวนแห่งความขัดแย้งเหมือนในอดีต ผมจึงได้เลือกอาสาเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนในนามของพรรคนี้"

"เชฟบุญธรรม" ยังเล่าถึงความตั้งใจที่จะทำให้กับประชาชน หากชาวบ้านในพื้นที่ให้ความไว้วางใจนั้น โดยเฉพาะนโยบายพรรคไทยสร้างไทย ที่อยากผลักดัน เพราเชื่อว่าจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้อย่างเช่น "บำนาญประชาชน เดือนละ 3,000 บาท" โดยทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ด้วยวิธีการพลิกแพลง การบริหารจัดการด้านงบประมาณแผ่นดินแบบใหม่เท่านั้น

 

เปิดใจ\"เชฟบุญธรรม\"ขอออกจากครัวสู่งานการเมืองช่วยเกษตรกรสร้างรายได้

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ เคยทำนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่คิดขึ้นให้เป็นผลสำเร็จมาแล้ว หากนโยบายนี้นำไปสู่การปฏิบัติ โอกาสโดยเฉพาะผู้สูงอายุก็จะมีความมั่นคงมากขึ้น ส่วนลูกหลานก็จะมั่นคงทางรายได้ เพราะไม่ต้องส่งเงินให้พ่อแม่บุพการี เพราะมีรัฐช่วยดูแลแล้ว ก็จะทำให้ลูกหลานมีเงินเลี้ยงดูครอบครัวตัวเองได้ดีขึ้น 

 

เชฟบุญธรรม กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า ถ้าคนกลุ่มนี้ได้รับการดูแล การพัฒนารายได้อื่นๆ ก็จะตามมา สังคมไทยก็จะมั่นคงแข็งแรงด้านความเป็นอยู่ เศรษฐกิจไทยก็จะเดินหน้าได้ เนื่องจากคนกลุ่มเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ

 

"หากพวกเขาลืมตาอ้าปากได้ประเทศก็จะเดินหน้าได้ และยังไม่รวมถึงนโยบายเรียนฟรี ลดเวลาการเรียนลงอีก 3 ปี เพื่อให้ประชากรได้มีโอกาสเข้าสู่ตลาดแรงงานและสร้างอาชีพได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไปในตัว"   

นอกจากนี้ เชฟบุญธรรม ยังบอกด้วยว่า ส่วนตัวมีนโยบายที่จะทำให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายพัฒนาอาชีพและรายได้ของชาวบ้านซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรให้มั่นคงขึ้น  คือ โครงการให้  "ผักขะแยง" หรือ "ผักกะแยง" ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านที่ชาวอีสานรู้จักกันเป็นอย่างดี ให้เป็น "ผักขะแยงผง" ซึ่งผักขะแยงเป็นผักที่ปลูกง่าย มีกลิ่นหอมฉุน ชาวบ้านมักนำมาใส่ในอาหารคาวประเภท ต้ม-แกง และอื่นๆ รวมทั้งการกินเป็นผักเครื่องเคียง

 

เปิดใจ\"เชฟบุญธรรม\"ขอออกจากครัวสู่งานการเมืองช่วยเกษตรกรสร้างรายได้

 

"ผมได้คิดและเล็งเห็นว่า หากสามารถพัฒนาผลักดันให้ผักชนิดนี้เป็นผักขะแยงผงได้ โอกาสที่จะดันผักนี้เดินทางไปสู่ตลาดต่างประเทศ ก็จะทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรตามไปด้วย ดังนั้น ผมจึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในการพัฒนาและทำการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาและแปรรูปผักขะแยง จากผักธรรมดาให้เป็น "ผักขะแยงผง" เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการนำไปใช้ปรุงอาหาร และง่ายต่อการทำตลาดทั้งทั้งในและต่างประเทศ"

 

นอกจากนี้ เชฟบุญธรรม บอกด้วยว่า นอกจากจะสามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารคาวเพื่อสร้างกลิ่นที่ชวนรับประทานแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เช่น ชา และอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งหากพัฒนาได้สำเร็จ โอกาสที่จะผลักดันผักขะแยงเข้าสู่ตลาดสากล ก็จะง่ายขึ้น เพราะในฐานะเป็นเชฟอาหารญี่ปุ่น ได้เดินทางไปหลายประเทศ ซึ่งไม่ต่ำกว่า 6 ประเทศ หากโครงการนี้สำเร็จสามารถนำไปเข้าสู่ตลาดได้เลย

 

"ปัจจุบันผมได้ให้ ม.อุบลฯ เป็นผู้ดำเนินการไปหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะในแง่ของการศึกษาวิจัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ทั้งในแง่การใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และสะดวกต่อการใช้กับอาหารทั่วไป หากโครงการประสบความสำเร็จในอนาคต จะนำไปสู่การส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกผักขะแยงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันได้ต่อไป"

 

เปิดใจ\"เชฟบุญธรรม\"ขอออกจากครัวสู่งานการเมืองช่วยเกษตรกรสร้างรายได้

 

สำหรับประวัติ "เชฟบุญธรรม"

 

เป็นคนพื้นเพ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี โดยปัจจุบันอายุ 49 ปี

 

โดย "เชฟบุญธรรม" เป็นที่รู้จักในแวดวงสังคม จากการเข้าร่วมแข่งในรายการอาหารจนสามารถคว้าแชมป์มาครอบครองหลายสมัย ก่อนขยับตัวมาเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นอีกหลายสาขาในกรุงเทพ ภายใต้แบรนด์ "ฮอนโมโน" และปัจจุบัน ยังเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ "โอชิเน" ซึ่งกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

 

นอกจากในเรื่องของอาหารแล้ว "เชฟบุญธรรม" ยังเป็นเจ้าของค่ายมวยไทย ชื่อว่า "ศิษย์เชฟบุญธรรม" ที่หวังสร้างนักชกภูธร ขึ้นสู่นักชกมืออาชีพ กระทั่งช่วงปี 2562-2563 ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในแวดวงมวยไทย ให้เป็นโปรโมเตอร์จัดมวยไทย ที่เวทีมวยราชดำเนิน จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์การจัดชกมวยไทย ที่สามารถเก็บค่าเข้าชมได้มากที่สุด

 

กระทั่งช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 "เชฟบุญธรรม" ได้ลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์มวยไทย ที่เวทีราชดำเนิน และหันมาจัดชกมวยไทยออนไลน์ เพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชนโดยจัดให้ชมฟรีผ่านระบบออนไลน์ในนาม "ศึกเชฟบุญธรรม มวยไทยออนไลน์"