เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของยูเครน เปิดเผยว่า ขีปนาวุธ 2 ลูก ถูกยิงใส่ใจกลางเมืองซูมี ในแคว้นซูมีเมื่อเวลาราว 10.15 น.ของวันอาทิตย์ (13 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะประชาชนรวมตัวที่โบสถ์เพื่อฉลองวันปาล์มซันเดย์ หรือวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จสู่กรุงเยรูซาเลม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน และมีผู้บาดเจ็บ 84 คน ซึ่งเป็นเด็ก 10 คน ผู้บาดเจ็บหลายคนอยู่กลางถนน ในรถยนต์ ระบบขนส่งสาธารณะ หรือในบ้าน
เจ้าหน้าที่ระบุว่า อาคาร 20 หลังได้รับความเสียหาย รวมถึงสถานศึกษา 4 แห่ง รถยนต์และรถราง 10 คัน คาเฟ ร้านค้า และอะพาร์ตเมนต์ 5 หลัง
หน่วยข่าวกรองยูเครน ระบุด้วยว่า ขีปนาวุธที่ใช้โจมตีเป็นขีปนาวุธทิ้งตัว อิสกันเดอร์ เอ็ม ยิงจากเมืองโวโรเนซ และคูสก์ของรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี โพสต์ในเทเลแกรมว่า มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายสิบคนจากการโจมตีในวันที่ประชาชนไปโบสถ์ในวันปาล์มซันเดย์ และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุโรป และทุกคนในโลกที่ต้องการยุติสงครามและการฆาตกรรม ร่วมกันตอบสนองต่อเหตุการณ์ล่าสุดอย่างหนักแน่น พร้อมกับชี้ให้เห็นว่า รัสเซียต้องการการก่อการร้าย และทำให้สงครามยืดเยื้อ โดยหากไม่มีแรงกดดันต่อผู้รุกราน สันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้
เขาบอกด้วยว่า การเจรจาไม่อาจหยุดยั้งการโจมตีด้วยขีปนาวุธและการทิ้งระเบิดได้ และต้องการให้โลกแสดงท่าทีต่อรัสเซียอย่างที่ผู้ก่อการร้ายสมควรได้รับ
ในวันเดียวกันนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า ยูเครนโจมตีทางอากาศ 2 ครั้งทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในช่วงหนึ่งวันที่ผ่านมา
การโจมตีล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่สองฝ่ายยังปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กัน แม้ตกลงระงับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานชั่วคราวภายใต้ข้อเสนอของสหรัฐฯ ตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายของการเจรจาเพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อกว่า 3 ปี ยูเครนสนับสนุนข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐฯ ที่ขยายขอบเขตมากขึ้น แต่รัสเซียยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติมทำให้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน
เมื่อวันศุกร์สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ เพิ่งพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่า ทั้งสองหารือกันนานกว่า 4 ชม และมุ่งเน้นการยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และคิริลล์ ดิมิตริเยฟ ทูตพิเศษรัสเซีย บอกว่า การหารือมีผลคืบหน้า