สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ (USTR) ประกาศอัตราค่าธรรมเนียมใหม่สำหรับเรือบรรทุกสินค้าที่จะเทียบท่าเรือในสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อมุ่งชุบฟื้นอุตสาหกรรมต่อเรือในสหรัฐฯ และลดอิทธิพลของจีนในอุตสาหกรรมนี้ แถลงการณ์ ระบุว่า เรือและการขนส่งสินค้าทางทะเลสำคัญต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการขับเคลื่อนการค้า และรัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มลดอิทธิพลของจีน และภัยคุกคามต่อซัพพลายเชน หรือห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐ และเพิ่มความต้องการเรือสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ พร้อมทั้งระบุว่า การครอบงำของจีนสร้างความเสียเปรียบอย่างร้ายแรงแก่ธุรกิจ คนงาน และเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ภายใต้อัตราใหม่ เจ้าของเรือและผู้ประกอบการเรือสินค้าจีนจะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 50 ดอลลาร์ต่อสินค้าสินค้าน้ำหนัก 1 ตัน โดยจะเริ่มมีผลใน 180 วัน หรือกลางเดือนตุลาคม และจะเพิ่มขึ้นอีก 30 ดอลลาร์ต่อตันในแต่ละปีเป็นเวลา 3 ปี
ส่วนค่าธรรมเนียมสำหรับเรือสินค้าที่ผลิตในจีนจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 18 ดอลลาร์ต่อสินค้าน้ำหนัก 1 ตัน หรือ 120 ดอลลาร์ต่อคอนเทนเนอร์ 1 ตู้ และอัตราจะเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ต่อตันในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ขณะที่เรือสินค้าที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ และบรรทุกรถยนต์ จะเสียค่าธรรมเนีย 150 ดอลลาร์ต่อรถยนต์ 1 คัน
ค่าธรรมเนียมนี้จะเก็บเพียงครั้งเดียวต่อการเดินทาง 1 เที่ยวสำหรับเรือที่ได้รับผลกระทบ และไม่เกิน 5 ครั้งต่อปี
อัตราใหม่นี้ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับข้อเสนอที่เผยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่กำหนดว่า เรือสินค้าจีนจะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 1.5 ล้านดอลลาร์ต่อการเทียบท่าเรือสหรัฐฯ แต่ละแห่ง หลังจากเผชิญกระแสต่อต้านอย่างหนักจากภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตามมาตรการใหม่นี้สร้างความกังวลแก่หลายฝ่ายว่าจะยิ่งทำให้การค้าโลกหยุดชะงัก ซ้ำเติมสถานการณ์สงครามการค้าจากการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในวันศุกร์ว่า จีนเคยย้ำคัดค้านเรื่องการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเทียบท่าเรือหลายครั้งแล้ว และจะย้ำอีกครั้งว่า อัตราใหม่จะกระทบต่อผลประโยชน์ต่อทุกฝ่ายและสหรัฐฯ ด้วย จะทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าของโลกเพิ่มสูงขึ้น, ห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนของโลกหยุดชะงัก และเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งในที่สุดผู้บริโภคและธุรกิจของอเมริกันจะได้รับผลกระทบ และไม่อาจชุบฟื้นอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ ด้วย
นอกจากนี้จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพข้อเท็จจริงและกฎข้อบังคับพหุภาคี และหยุดกระทำสิ่งผิดพลาดทันที และจีนจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ