รายงานความสุขโลกประจำปี 2025 (World Happiness Report 2025) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความสุขใน 147 ประเทศทั่วโลกที่เผยแพร่โดยสหประชาชาติ ชี้ว่า ฟินแลนด์ยังครองตำแหน่งประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ได้ 7.736 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 และประเทศในยุโรปที่ติด 5 อันดับแรก ได้แก่ เดนมาร์ก อันดับ 2, ไอซ์แลนด์ อันดับ 3, สวีเดน อันดับ 4 และเดนมาร์ก อันดับ 5
ส่วนอันดับที่ 6-10 ได้แก่ คอสตาริกา, นอร์เวย์, อิสราเอล, ลักเซมเบิร์ก และเม็กซิโก โดยคอสตาริกา และเม็กซิโก ติดใน 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรก
ขณะที่สหรัฐฯ ร่วงจากอันดับ 23 ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 24 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดทำรายงานครั้งแรกเมื่อปี 2555 ซึ่งตอนนั้นสหรัฐฯ อยู่อันดับที่ 11 โดยมีปัจจัยจากความโดดเดี่ยวในสังคม และการแบ่งขั้วทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น และในปี 2566 พบว่า ชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 4 รับประทานอาหารเพียงคนเดียวทุกมื้อในวันก่อนหน้า
ส่วนประเทศไทยขยับขึ้นจากอันดับที่ 58 เป็นอันดับที่ 49 ได้ 6.222คะแนน ส่วนประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดคือ อัฟกานิสถาน อยู่อันดับที่ 147 ได้ 1.364 คะแนน มีสาเหตุจากหายนะด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นนับจากกลับไปอยู่ใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน เมื่อปี2563 หลังสหรัฐฯ ถอนทหารออกไป
สำหรับปัจจัยที่ใช้วัดระดับความสุขมีหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึง สุขภาพ, ความร่ำรวย, เสรีภาพ, ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการปลอดคอร์รัปชัน
รายงานระบุด้วยว่า การรับประทานอาหารร่วมกันมีผลอย่างมากต่อสุขภาวะ โดยเกิดขึ้นกับทุกช่วงวัย, เพศ, ประเทศ, วัฒนธรรมและศาสนา และประเทศที่มีความสุขในอันดับสูงสุดล้วนมีลักษณะเหมือนกัน คือ ความเป็นปึกแผ่นในสังคม และระบบประกันสังคมที่เข้มแข็ง