แคปซูลขนส่งลูกเรือของสเปซเอ็กซ์กลับถึงโลกโดยลงจอดกลางทะเลด้วยร่มชูชีพนอกชายฝั่งรัฐฟลอริดาเมื่อเวลา 17.57 น.ของวันอังคาร (18 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีฝูงโลมาล้อมรบ และเรือกู้ภัยดึงแคปซูลอวกาศของสเปซเอ็กซ์ขึ้นจากน้ำ และนักบินอวกาศบุตช์ วิลมอร์ และซูนี วิลเลียมส์ ที่ติดค้างในอวกาศนาน 9 เดือน พร้อมด้วยนักบินอวกาศของนาซา นิค เฮค และนักบินอวกาศรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ กอร์บูนอฟ ออกจากแคปซูลโดยต้องมีเจ้าหน้าที่ใช้เปลหามออกมาตามปกติ หลังจากทั้งหมดอยู่ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วงบนอวกาศมานาน
สตีฟ สติช ผู้จัดการโครงการขนส่งนักบินอวกาศด้วยยานของเอกชนขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา แถลงแสดงความชื่นชมวิลเลียมส์ และวิลมอร์ สำหรับความสามารถในการปรับตัว ที่ต้องติดค้างอยู่ในสถานีอวกาศนานาชาตินานถึง 9 เดือน จากเดิมมีกำหนดทำภารกิจเพียง 8 วัน
ทั้งคู่จะถูกส่งไปกักตัวที่ศูนย์อวกาศจอห์นสันของนาซาที่เมืองฮุสตันเพื่อตรวจสุขภาพก่อนที่แพทย์ของนาซาจะอนุญาตให้พวกเขากลับบ้านไปพบกับครอบครัวได้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันอังคารด้วยว่า ทั้งคู่จะได้รับการต้อนรับที่ทำเนียบชาว เมื่อฟื้นตัวเป็นปกติแล้ว
วิลมอร์ และวิลเลียมส์ เดินทางสู่อวกาศด้วยยานสตาร์ไลเนอร์ของบริษัทโบอิงเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 โดยเป็นภารกิจแรกของโบอิง แต่ด้วยปัญหาขัดข้องของระบบขับเคลื่อนทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับโลกได้ด้วยยานดังกล่าว และนาซาตัดสินใจให้รอแคปซูลลูกเรือของสเปซเอ็กซ์นำนักบินอวกาศ 4 คน ขึ้นไปผลัดเปลี่ยนบนสถานีอวกาศ แล้วให้แคปซูลของสเปซเอ็กซ์อีกลำ ที่จอดเทียบไอเอสเอสตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว พาวิลมอร์และวิลเลียมส์ และนักบินอวกาศอีก 2 คนกลับโลก
วิลมอร์และวิลเลียมส์อยู่ในอวกาศรวมระยะเวลา 286 วัน มากกว่าภารกิจปกติที่ใช้เวลาเฉลี่ย 6 เดือน และการอยู่ในอวกาศเป็นเวลานานจะส่งผลให้ร่างกายสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูกและมวลกล้ามเนื้อ ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด และการไหลเวียนของของเหลวอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และต้องใช้เวลาการปรับตัวนานกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งคู่จึงต้องใช้เวลาในการปรับตัวใหม่อีกครั้งเพื่อให้อยู่ในสภาพแรงโน้มถ่วงของโลกได้