25 มีนาคม 2568 จากกรณี ด.ต.กิตติศักดิ์ อายุ 37 ปี สังกัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระยอง ช่วยราชการ สืบ ตม.3 เมาบุกบ้านแฟนเก่า อาละวาดทุบกระจก ก่อนทำร้ายร่างกาย ร.ต.ต.พาสกร รอง สวป.สภ.สัตหีบ ปฏิบัติหน้าที่ตู้ยามบ้านเตาถ่าน ซึ่งมาระงับเหตุ ด้วยการเตะต่อยและจับศีรษะโขกพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดคั่งในสมอง ฟันหน้าบนหักหนึ่งซี่ ส่วน ด.ต.กิตติศักดิ์ เข้ามอบตัว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.
ล่าสุด ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ ผบก.ตม.3 ไปตรวจสอบ พบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในสังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระยอง ช่วยราชการ สืบ ตม.3 ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบสวนวินัยอย่างเด็ดขาดแล้ว โดยภายในเย็นนี้ทางต้นสังกัดจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากมีการกระทำความผิดในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และชิงทรัพย์ ซึ่งทาง สตม. จะดูในส่วนของเรื่องวินัย แต่ในคดีอาญานั้นเป็นของตำรวจภูธรภาค 2
จากที่ตนได้รับรายงานเหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. พฤติการณ์ ผู้ก่อเหตุได้ไปที่บ้านอดีตแฟน และมีปัญหากัน อดีตแฟนจึงแจ้งตำรวจ สภ.สัตหีบ เข้าระงับเหตุ ซึ่งขณะเข้าไประงับเหตุนั้นเกิดความชุลมุนและชกต่อยกัน และยังมีการนำอาวุธปืนของตำรวจที่เข้าระงับเหตุไปด้วย ซึ่งการที่ชิงอาวุธไปเป็นพฤติการณ์ที่ไม่ถูกต้อง เบื้องต้นทราบว่าตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บมีฟันหักและเลือดออกในสมอง
ด.ต.กิตติศักดิ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายตำรวจผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวเคยมีประวัติก่อเหตุหรือไม่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานยังไม่พบ แต่ทราบว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน
เมื่อถามว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาไปก่อเหตุที่ไม่เหมาะสม มองเรื่องนี้อย่างไร ผบช.สตม. กล่าวว่า สิ่งไหนที่ไม่ถูกต้อง หากทำไปแล้วเจ้าตัวจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป ทาง สตม. ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มองว่าการกระทำในครั้งนี้ที่ก่อเหตุกับตำรวจด้วยกันเองนั้น ค่อนข้างรุนแรง จึงสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน“ พล.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าว