25 มีนาคม 2568 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงในการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังถูก นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน พาดพิงว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อยู่ในตำแหน่งอย่างเหนียวแน่น เกิดจากเรื่องไม่โปร่งใสชั้น 14 แม้มีการร้องเรียนผ่านองค์กรต่างๆ มากมายแต่นายกฯ ก็นิ่งเฉย
พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า จากการฟังอภิปรายของ นายรังสิมันต์ ตนเคยแอบตั้งความหวังว่า นายรังสิมันต์ น่าจะเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ แต่สิ่งที่นำมาพูดวันนี้ ก็เสียใจเช่นเดียวกับเมื่อวาน เพราะช่างตัดตอน จินตนาการ และใช้วาทะกรรม
พร้อมชี้แจงว่า กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เกี่ยวกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร สักนิดเดียว เพราะนายทักษิณ ได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 31 ส.ค.67 ในขณะนั้น นางสาวแพทองธาร ยังเป็นนายกรัฐมนตรี
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
การที่ นายรังสิมันต์ อ้างว่า มี ดีลแลกประเทศ และขยายว่า มีดีลปีศาจ ไม่ทราบว่า ในก้นบึ้งของจิตใจนายรังสิมันต์ หมายถึงอะไร ถ้าหากดูให้ดีมันคือวาทะกรรม คือเรื่องที่จินตนาการไปเอง และขอให้ยอมรับว่า หลังจากการยุบสภาของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา การเลือกตั้งเมื่อปี 2566 พรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดคือพรรคก้าวไกล ปัจจุบันคือพรรคประชาชน
ทราบหรือไม่ว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค ได้เลือกประธานสภาและเสนอ นายวัน มูหะมัด นอร์มะทา เป็นประธาน และคนที่เสนอ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคือ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชาติ ก็ร่วมโหวตให้ด้วย จึงถามว่า แบบนี้เป็นดีลหรือไม่ เพราะในขณะนั้นมีการมาคุยว่า หากพรรคประชาชนได้เป็นนายกฯ และพรรคประชาชาติร่วมด้วย จะให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรองนายกฯ ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อมาตั้งรัฐบาล ตนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในยุค ของ นายเศรษฐา ทวีสิน จนมาถึงรัฐมนตรีของนายกแพทองธาร ก็เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจน้อยที่สุด ในการออกนโยบาย ตามหมวดว่าด้วยหน้าที่แห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญ และตนได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเคร่ง เพราะต้องการให้กฎหมายอยู่เหนืออิทธิพล และทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
พันตำรวจเอก ทวี ยืนยันว่า นายทักษิณ กลับมา ตนยังไม่ทราบเลยว่า ในขณะนั้นจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เมื่อกลับมาท่านมีอาการป่วย ก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ สิ่งที่น่าเสียดายคือ นายรังสิมันต์ จบนิติศาสตร์ แต่ทราบหรือไม่ว่า คนที่เจ็บป่วย สถานที่รักษาพยาบาลคือเรือนจำ จึงถามว่าสิ่งเหล่านี้นายรังสิมันต์ไม่สะใจใช่หรือไม่ ต้องการให้นายทักษิณถูกทรมานใช่หรือไม่ เพราะการที่ไปอยู่โรงพยาบาล ก็ถือเป็นสถานที่ควบคุมพิเศษตามกฎกระทรวง และหากนายทักษิณหนีจากสถานที่ควบคุม ก็เหมือนหนีจากเรือนจำ
การที่นายรังสิมันต์บอกว่า ไม่มีสักวันเดียวที่ นายทักษิณติดคุก จึงถามว่าต้องการวาทกรรมที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดใช่หรือไม่ การคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของคนเข้าใจว่า เป็นการอภิสิทธิ์นั้นเป็นการพูดไม่จบ
พันตำรวจเอก ทวี ชี้แจงต่อว่า เมื่อตนเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ประมาณหนึ่งเดือน ก็เกิดความคิดส่วนตัวว่า ในระหว่างนี้นายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตลอด สังคมจะคิดว่าเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่ เพราะในเมื่อประชาชนป่วย ก็ต้องส่งรักษาพยาบาล แต่ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ทำได้ เพราะต้องฟังความเห็นของแพทย์
ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็เป็นมืออาชีพ ไม่รู้จักกับนายทักษิณเป็นการส่วนตัว ซึ่งเมื่อครบ 120 วัน อธิบดีก็ต้องเป็นคนพิจารณาว่า นายทักษิณจะกลับมาที่กรมราชทัณฑ์ได้หรือยัง ซึ่งก็มีการทำหนังสือไปยังโรงพยาบาลตำรวจ และหมอที่โรงพยาบาลเห็นว่า นายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ ตรงนั้นคือหน้าที่ของตน
ส่วนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ชอบไม่ชอบ ได้มีการมอบให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเรื่องนี้ก็มีองค์กรอิสระเกือบทุกองค์กรมาตรวจตรวจสอบแล้ว และการที่นายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจ กฎหมายเขียนไว้ว่าเป็นเรือนจำและถูกควบคุม แต่นายรังสิมันต์บอกว่า ไม่ถูกควบคุม จึงถามว่า เป็นการทำตัวใหญ่กว่ากฎหมายใช่หรือไม่
ขณะที่แพทยสภาในเรื่องของการเจ็บป่วยนั้น เชื่อว่า ทั้งตนและนายรังสิมันต์ ไม่มีใครรู้ดีในเรื่องกฎหมาย และจรรยาบรรณของแพทย์ ซึ่งแพทยสภาก็รับเรื่องไว้ปีกว่าแล้ว ยังต้องสอบสวน แต่ นายรังสิมันต์ รับเรื่องไว้แป๊บเดียว สามารถวินิจฉัยได้หมดเลย การบอกว่า “ปีศาจ” จึงถามว่าท่านมีอะไรในใจ ใครคือปีศาจของท่าน?
พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า การที่นายรังสิมันต์นำมาพูดการเป็นการสมมุติเอาเอง เพราะวันนี้มีการเตรียมการไปให้การกับ ป.ป.ช. แต่ยังไม่เคยมีการเรียกราชทัณฑ์เลย พร้อมขออย่าดูแคลน ป.ป.ช. เพราะเคยมีการไปดูที่โรงพยาบาลแล้ว เรียกแพทยสภาไปแล้ว และอย่าด้อยค่าใครว่าไม่มีความรู้ เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย ซึ่งเมื่อเรื่องเข้าสู่ ป.ป.ช.แล้ว แม้แต่กรรมการ ป.ป.ช. ยังนำยังนำเรื่องมาเปิดเผยไม่ได้ วันนี้เป็นการสมมุติไปทั่ว และเรื่องการพักโทษกรณีพิเศษ ตนก็มีคณะกรรมการ 10 กว่าคน ที่มาพิจารณาว่า ควรได้พักโทษกรณีพิเศษ และตนก็ได้เซ็นอนุมัติ
พันตำรวจเอกทวี ยังยืนยันว่า นายทักษิณและคนอื่นๆ เราปฏิบัติเหมือนกัน ยังไม่มีผู้ต้องหาราชทัณฑ์คนใด ที่โรงพยาบาลส่งคืนแล้วราชทัณฑ์ไม่นำกลับมา เพราะ นายรังสิมันต์ ก็เพิ่งไปพบกับน้องคนหนึ่งที่ถูกส่งไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แต่ทางกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า เคยมีกรณีการอดอาหาร คิดว่ากลับมาแล้วรับประทานอาหารได้ แต่กลับมาเสียชีวิต จึงยื้อไว้กับทางโรงพยาบาล
พร้อมย้ำว่า เรือนจำทั้ง 143 แห่งได้ปฏิบัติ ตามหลักนิติธรรมเช่นเดียวกันทั้งหมด ส่วนที่นายรังสิมันต์สงสัยทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
ขณะที่ นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นประท้วง ว่า มีการกล่าวหาว่าตนสะใจที่อดีตนายกทักษิณต้องไปอยู่โรงพยาบาลต่างๆ , พูดไม่ชัดว่า ดิวปีศาจคือใคร ว่า ตนได้ระบุชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า “ปีศาจ” ตนหมายถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ส่วนที่มีการพูดถึงว่า พรรคก้าวไกลในอดีตพูดอย่างไรไว้กับท่านบ้าง อยากให้พูดออกมาให้ชัดเลยว่า หากพรรคของตนทำไม่ถูกต้อง ขอให้พูดออกมาเลย เพราะไม่เคยมีวัฒนธรรมในเรื่องของการปกปิดความจริงอยู่แล้ว ไม่ควรมาดิสเครดิตกันแบบนี้
ตนรู้จักผ่าน พันตำรวจเอกทวี มาก่อนที่จะมาทำการเมือง และเรียกว่าพี่ทวีมาเสมอเพราะเคารพท่าน แต่วันนี้ที่มามาคุยกันในสภา คือการพูดตามข้อเท็จจริง และไม่ได้ต้องการเจาะจงไปที่ พันตำรวจเอกทวี แม้บางหน่วยงานอาจจะเกี่ยวข้องกับตัวท่านบ้าง แต่ผู้ที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ นางสาวแพรทอง ซึ่งตนรอฟังอยู่
พร้อมย้ำว่าทุกอย่างที่ตนทำไปไม่ใช่เรื่องของความสะใจ ขออย่าบลัพกันไปมา พร้อมยืนยันว่า แม้พันตำรวจเอกทวีกล่าวหาตนขนาดนี้ แต่ตนจะไม่ลืมสิ่งดีดีที่เราเคยทำร่วมกันมา
จากนั้น พันตำรวจเอกทวี ได้ลุกขึ้นแจงอีกครั้งว่า เรื่องที่ตนบอกว่าเคยพูดอะไรกันไว้นั้นไม่ใช่เรื่องไม่ดี เพราะตนก็มีจิตใจเป็นประชาธิปไตย และฝันว่าตามรัฐธรรมนูญ พรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดควรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี และพูดถึงปรึกษากัน ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร