แจ้ง 4 ข้อหา ตำรวจ ตม.ทำร้าย ร.ต.ต.ตู้ยามเตาถ่าน จนเลือดคั่งในสมอง

จากกรณี เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 มี.ค.2568 พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกด.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกรียงไกร มีแสง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อภิชาติ นามจันโท สว.สส. พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจ รวมกว่า 10 นาย ลงพื้นที่ระงับเหตุ ด.ต.กิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือ "บอย" อายุ 37 ปี สังกัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ช่วยราชการสืบ ตม.3 มีอาการมึนเมา ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ร.ต.ต.พาสกร พาชูระเบียบนา อายุ 54 ปี หัวหน้าตู้ยามเตาถ่าน ขณะเข้าระงับเหตุก่อความวุ่นวายภายในบ้านของอดีตแฟนสาว ซึ่งดาบบอย ได้ชกต่อย และจับศีรษะของ ร.ต.ต.พาสกร โขกกับพื้น จนมีอาการเลือดคั่งในสมอง และฟันหน้าด้านบนหักหนึ่งซี่ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โดยด่วน  

นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังชิงเอาอาวุธปืนพกสั้นประจำกาย GLOCK 19 หลบหนีไปด้วย เหตุเกิดภายในชุมชนวัดเขาคันธมาทน์ หมู่ 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งถูกผู้ก่อเหตุทุบกระจกหน้าบ้านแตกเสียหาย

ต่อมา เวลา 06.00 น. ด.ต.กิตติศักดิ์ (ผู้ก่อเหตุ) ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ พร้อมนำอาวุธปินที่ชิงไปมาส่งมอบคืน แต่ไม่พูดถึงชนวนเหตุที่ลงมือทำร้ายตำรวจด้วยกัน มีเพียงคำให้การของ น.ส.อนงค์ลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อดีตแฟนสาวของดาบบอย เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงขณะเกิดเหตุ ดาบบอย (อดีตแฟน) มาตามราวี และทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ แต่อดีตแฟนกับคิดว่า ตำรวจที่มานั้นเป็นเพียงตำรวจอาสา ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง อีกทั้งเรื่องก็เกิดในบ้านตนเอง ด้วยเหตุนี้ คงเป็นชนวนเหตุที่ทำให้อดีตแฟนโกรธจนลงมือทำร้ายนายตำรวจจนบาดเจ็บ

ล่าสุด มีรายงานว่า พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี ได้แจ้ง 4 ข้อหาหนัก กับผู้ก่อเหตุ ได้แก่

1. บุกรุกเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย ในเวลากลางคืน
2. ทำให้เสียทรัพย์
3. ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 
4. ชิงทรัพย์ (อาวุธปืน) เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม 

เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยอมรับทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นปฏิเสธข้อหา ชิงทรัพย์

ด้าน พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที โดยให้คณะกรรมการลงพื้นที่ประสานงานกับตำรวจ สภ.สัตหีบ ซึ่งหากได้ข้อเท็จจริงว่า ทำร้ายร่างกายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย และชิงทรัพย์อาวุธปืนจริง จะพิจารณาให้ดาบตำรวจนายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อนทันที แต่เท่าที่เห็นภาพการทำร้ายร่างกายตำรวจ แค่ภาพนี้ก็สามารถพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้แล้ว