28 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมความคืบหน้าคดีแชร์ลูกโซ่ "ดิไอคอนกรุ๊ป" ว่า หลังจากที่ได้มีการมอบหมายให้ชุดทำงานงานแต่ละชุดไปดำเนินการสอบสวน เช่น ชุดตรวจสอบเส้นทางการเงิน และชุดตรวจสอบคลิปวีดีโอต่างๆ
ในวันนี้ก็มีการเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าของแต่ละทีมงานในเรื่องความคืบหน้าการสอบสวน ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปถึง 80% แล้ว คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนแล้วเสร็จแล้วส่งต่ออัยการพิจารณาสั่งฟ้องได้ภายในเดือนธันวาคมนี้
สำหรับในส่วนคดีของ "นายสามารถ" ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินจากการที่มีเส้นทางการเงินจาก "บอสพอล" นั้น ในส่วนนี้ยังไม่ได้นำพยานหลักฐานมาชี้แจ้งกับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในข้อกล่าวหาและเส้นทางการเงิน
ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในกำหนด 15 วัน ที่ฝั่ง "นายสามารถ" จะทำคำชี้แจง เป็นลายลักษณ์อักษรส่งมาที่ดีเอสไอ
ส่วนกรณีที่ภายหลังจากเข้าตรวจค้นบ้านของ "นายสามารถ" แล้วพบเอกสารเป็นหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน ระหว่าง "บอสพอล" และ "แม่นายสามารถ" จนทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า "หนังสือดังกล่าว เป็นหนังสือพยานฐานเท็จ ที่เพิ่งทำขึ้นมา" เพื่อช่วยเหลือนายสามารถ หรือไม่
พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า เรื่องนี้ทางดีเอสไออยู่ในระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา ก็จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า เอกสารดังกล่าวต้องสงสัยว่าทนายความของบอสพอลเป็นผู้ทำเอกสารหรือไม่
พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ต้องไปตรวจสอบในรายละเอียดก่อน ทั้งนี้ส่วนตัว พยายามมองว่า ทนายความของบอสพอลก็พยายามทำหน้าที่ของทนายความอยู่ ไม่ใช่เป็นการประวิงเวลาคดีแต่อย่างใด
จากการที่ทนายความของบอสพอลออกมาแจ้งว่าจะนำพยาน มาให้ปากคำวันละ 200 คนนั้น ล่าสุดในวันนี้ก็ยังไม่มีพยานรายใดมาให้ปากคำ แต่ทางดีเอสไอจัดเตรียมพนักงานสอบสวนเอาไว้รองรับแล้ว กำหนดปิดรับสอบปากคำพยานภายในวันที่ 3 ธ.ค.67 เช่นเดิม
ส่วนกรณีที่ทนายความบอสพอลจะยื่น ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบการทำงานของดีเอสไอ นั้น ทาง DSI ไม่หนักใจในเรื่องนี้ เพราะเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่
"ทนายความ "จ๊อบ-สามารถ" เข้าเยี่ยมพบเจ้าตัวมีอาการอ่อนเพลียและวูบ เตรียมยื่นขอประกันตัว ชั่วคราว เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เนื่องจากเจ้าตัวเซ็นยินยอมหากเกิดอาการช็อคไม่ต้องทำการกู้ชีพ
ด้าน ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของ "นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช" และ "มารดานายสามารถ" เปิดเผยภายหลังการเข้าเยี่ยม นายสามารถ ที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ว่า ภายหลังการยื่นเรื่องขอเข้าเยี่ยม เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ไปพบกันที่ห้องพบทนายความ โดยสภาพ "นายสามารถ" ในวันนี้นั้น มีเจ้าหน้าที่พามาโดยมีการนั่งวิลแชร์มาพบ ลักษณะภายนอกที่สังเกตดูเบื้องต้น ค่อนข้างอ่อนเพลีย เพราะในระหว่างที่พูดคุย นายสามารถก็มีอาการวูบ สัปหงก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเช็คตลอดว่ามีอาการวูบหรือไม่ มีสติหรือเปล่า
ซึ่งตัวนายสามารถเองไม่ได้ทานอาหารหรือน้ำ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.พ.ที่ ถูกนำตัวมาที่ดีเอสไอ และในวันที่ 26 พ.ย.ก็มีเจ้าหน้าที่นำอาหาร และน้ำดื่มมาให้ แต่นายสามารถไม่ได้กิน จนกระทั่งถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้ทานอาหาร และดื่มน้ำ แพทย์ก็ยังมีความเป็นห่วงเนื่องจากเจ้าตัวไม่ทานอะไรเลย
ซึ่งนายสามารถ ได้มีการแจ้งความประสงค์ไว้ตั้งแต่ที่ดีเอสไอแล้ว ว่าตั้งใจจะอดอาหาร-น้ำ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และได้มีการเซ็นเอกสาร ยืนยันว่า ถ้าหากมีอาการช็อคไปไม่ต้องทำการกู้ชีพ ถ้าไม่ได้ประกันตัวออกมาก็คือยอมตายในเรือนจำ
ทางญาติและทนายความมีแพลนที่จะขอตัวย้ายจากเรือนจำออกมารักษาที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ในกรณีของการยื่นขอประกันตัวนั้น ก็จะนำหยิบยกเรื่องของอาการป่วยซึ่งมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค ร่วมไปถึงอาการในปัจจุบัน เพื่อให้ศาลพิจารณาประกันตัวด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดประวัติการรักษา ซึ่งพยายามทำให้รวดเร็วที่สุดเนื่องจากเป็นห่วงเรื่องปัญหาสุขภาพ
นอกจากในเรื่องของคดีแล้วคุณสามารถก็ยังมีการฝากจดหมายโดยพูดเป็นคำพูด ให้ทนายเขียนด้วยลายมือ มีใจความประมาณเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และพูดถึงสิทธิ์ในการขอ ยื่นประกันตัว ให้กับตนเอง แต่ทั้งนี้ไม่สามารถเปิดเผยกับสื่อได้ ซึ่งจดหมายฉบับนี้จะแนบไปกับเอกสารการขอยื่นประกันตัวด้วย
การที่นายสามารถต้องเขียนจดหมายออกมา เพราะว่าเจ้าตัวมองว่าสิทธิ์การประกันตัวเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน เนื่องจากความผิดตาม พ.ร.ก.การฟอกเงิน ต้องมีการแจ้งข้อหาความผิดมูลฐานก่อน
แต่ในกรณีนี้ ความผิดมูลฐาน ยังไม่ได้มีความความชัดเจนเสียด้วยซ้ำ ซึ่งมีหลายเคส ที่ถูกดำเนินคดีในฐานความผิด พ.ร.ก.การฟอกเงิน แต่ผลสุดท้ายศาลยกฟ้องหรือไม่มีความผิด บุคคลเหล่านี้ กับ ต้องสูญเสียทั้งอิสรภาพ และทรัพย์สิน
ซึ่งการเรียกร้องความยุติธรรมของนายสามารถในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการทำเพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณี ของผู้ต้องหาที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในการ ปล่อยตัวชั่วคราว บางคดีความเสียหายไม่ได้เยอะแต่ว่าศาลไม่อนุญาต เช่นเดียวกับคดีดิไอคอนที่ก็ไม่ได้รับการประกันตัวเหมือนกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิทธิ์ในการขอปล่อยตัวชั่วคราว ควรจะเป็นสิ่งแรกที่ได้รับการพิจารณาก่อน แต่เรามักจะพิจารณาในสิทธิ์ข้อยกเว้นเสียมากกว่า ทำให้ ในปัจจุบันมีผู้ต้องหารายคนที่ถูกคุมขังอยู่ด้านใน เรือนจำพิเศษ
ส่วนหลักทรัพย์ในการประกันตัวตอนนี้มีการนำทรัพย์สินที่ดิน ไปประเมินราคาเพิ่ม เนื่องจากในตอนแรกที่มีการยื่นขอประกันตัวทั้ง คุณแม่และนายสามารถนั้น ได้มีการเตรียมหลักทรัพย์มีประกันตัวอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท ต่อมา คุณแม่ของคุณสามารถได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมา ทางญาติจึงนำที่ดินไปประเมินราคาเพิ่ม เตรียมยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวเพิ่ม ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะขอยื่นอุทธรณ์การปล่อยตัวของนายสามารถ และอาจจะมีการ ขอติดกำไร EM ด้วย ส่วนหลักทรัพย์ที่จะนำไปยื่นเพิ่ม ตนยังไม่ทราบมูลค่า โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุดถ้าทันในวันนี้ก็จะดำเนินการในวันนี้เลยแต่ถ้าหากไม่ทันก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้
ส่วนประเด็นที่ว่าค้นเจอเอกสารหลักฐาน ในการกู้ยืมเงินระหว่าง "นายสามารถ" กับ "บอสพอล" แต่ ทางดีเอสไอ มองว่าอาจจะเป็นการปลอมแปลงเอกสารขึ้นมาหรือไม่
ทนายธีรศานต์ กล่าวว่า การกู้ยืมเงิน เป็นเรื่องระหว่าง คนสองคน ซึ่งทางนายสามารถก็ยืนยันว่า เป็นผู้กู้ ส่วนบอสพอลก็มีการเซ็นเอกสารเป็นผู้ให้กู้ โดยจะมีการชำระหนี้ เป็นเงินสด ซึ่งในส่วนนี้สามารถพิสูจน์ได้อยู่แล้วจากลายเซ็นว่า
เป็นของทั้งคู่จริงหรือไม่ ส่วนในประเด็นที่ว่าคุณสามารถเป็นคนกู้ยืมเงินแต่เหตุใดเงินถึงโอนเข้าบัญชีแม่ของคุณสามารถนั้นตนไม่ทราบ เพราะในส่วนนี่อาจจะมีการพูดคุยภายในครอบครัวหรือไม่