หลัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายจับ และจับกุม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย และ "แม่น้อย" นางวิลาวัลย์ แม่ของ นายสามารถ ในข้อหา "ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน" คดี "ดิไอคอน"
ก่อนฝากขังศาลอาญา ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวเฉพาะแม่ ส่วนนายสามารถ ไม่ให้ประกันตัว เพราะหวันยุุ่งพยานหลักฐาน เนื่องจากเคยมีตำแหน่งทางการเมือง และใกล้ชิดผู้มีอำนาจ ฯลฯ สุดท้ายส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อเย็นวานนี้ (26 พ.ย.67)
27 พฤศจิกายน 2567 ล่าสุด ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าที่ ร.ต.นฤพล เรืองสังข์ ทนายความของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครนานกว่า 2 ชั่วโมง
โดย ว่าที่ ร.ต.นฤพล เผยว่า นายสามารถยืนยันว่าจะอดน้ำอดอาหารประท้วงจริงจนกว่าตนเองและหลายๆ คนในเรือนจำจะได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งจนกว่าตนเองจะได้รับการประกันตัว
โดยนายสามารถได้อดอาหารเมื่อ 3 วันก่อน ตั้งแต่ทราบว่า ถูกออกหมายจับและถูกตำรวจรวบตัวได้ที่ จ.เชียงราย ซึ่งจากการเข้าไปเยี่ยมนายสามารถพบว่า ตัวนายสามารถมีอาการปากซีด มีอาการเครียด แต่ยังคงพูดได้และตั้งใจที่จะต่อสู้คดีต่อไป
มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ตัวนายสามารถจะมีโรคประจำตัวคือโรคตับอ่อนและความดัน ซึ่งทางทนายความก็พยายามบอกนายสามารถว่า ขอให้กินน้ำกินอาหาร อย่าทำแบบนี้
แต่นายสามารถบอกว่า ตนเองรักความยุติธรรม หากจะเสียในชีวิตในเรือนจำ ก็เป็นการเสียชีวิตเพื่ออุทิศให้แก่ความยุติธรรมของประเทศไทย
สำหรับสาเหตุที่นำมาสู่การอดอาหารประท้วงนั้น เนื่องจากนายสามารถยังไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างฝากขังและในทางคดีฝั่งดีเอสไอ ยังเหลือการสอบพยานอย่างน้อยอีก 30 ปาก
รวมทั้งข้อหาความผิดมูลฐานฟอกเงินนั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่กลับถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงิน เลยทำให้นายสามารถมองว่า ตนเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การอดอาหารดังกล่าวเป็นการจงใจทำร้ายตัวเอง เพื่อจะได้ออกมาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่
ทนายความ กล่าวว่าไม่ใช่ ไม่ได้เป็นเหตุข้ออ้างเพื่อจะออกมาที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ อีกประเด็นที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม ก็คือเรื่องของกระบวนการของพนักงานสอบสวนที่ไม่มีการออกหมายเรียกทั้งนายสามารถและแม่ไปให้ปากคำชี้แจงเส้นทางการเงิน
แต่สุดท้ายกลับออกหมายจับ ทั้งๆที่ตัวบอสพอลได้ออกคำชี้แจงแล้วว่า ไม่มีคลิปเสียงที่มีการเรียกรับผลประโยชน์และเส้นทางการเงินต่างๆ บอสพอลก็มีเอกสารรับรองยืนยันทั้งหมด
อีกทั้งนายสามารถยังมองว่า ตอนแรกมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องตบทรัพย์ แต่สุดท้ายก็มากล่าวหาว่าเป็นการฟอกเงิน ซึ่งถือว่าย้อนแย้ง จึงยืนยันว่า การแจ้งข้อกล่าวหาว่าฟอกเงินไม่สมเหตุสมผล เพราะความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน
สำหรับประเด็นที่มีการพูดคุยกันในวันนี้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแนวทางการยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาลอาญา ซึ่งได้ดำเนินการในส่วนคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่ในส่วนของนายสามารถที่จะเขียนเหตุผลแนบท้ายคำร้อง ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถมารับเอกสารจากนายสามารถและนำไปยื่นอุทธรณ์ที่ศาลได้ภายในวันพรุ่งนี้
โดยเหตุผลในการยื่นอุทธรณ์หลักๆ คือ จะแสดงให้เห็นว่านายสามารถเข้ามามอบตัวกับตำรวจ จ.เชียงราย หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ ไม่ได้เป็นไปตามคำร้องขอฝากขังที่กล่าวว่านายสามารถถูกตำรวจจับกุม
จึงเห็นได้ว่านายสามารถไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและการที่ระบุในคำร้องขอฝากขังว่านายสามารถถูกจับกุมนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งถ้าหากศาลไม่รับคำอุทธรณ์ ก็จะดำเนินการยื่นประกันตัวในครั้งถัดไป
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้นายสามารถบอกสื่อมวลชนว่าว่า "อยากจะพูด แต่พูดไม่ได้" ขณะดีเอสไอนำตัวส่งฝากขังศาล
ทนายความ ระบุว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับทางคดีที่นายสามารถยังยืนยันว่า ทำไมถึงตั้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งๆ ที่ความผิดมูลฐานยังไม่มีความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม ว่า ประโยคดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือนักการเมืองระดับสูงหรือไม่
ทนายความระบุว่า ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนที่แม่นายสามารถระบุว่าเป็นเรื่องการกลั่นแกล้งทางการเมืองนั้น ตนยังไม่เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่แม่นายสามารถได้ยื่นจดหมายน้อยให้กับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่านายสามารถมีส่วนรู้เห็นหรือไม่
ทนายความ ระบุว่า นายสามารถไม่รู้เรื่องดังกล่าว ส่วนตัวได้สอบถามคุณแม่น้อย แม่ของนายสามารถว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคุณแม่บอกว่า ที่ทำลงไปเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและยังยืนยันว่า เส้นเงินจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 แล้ว และทำไมถึงไม่มีการออกหมายเรียกไปให้ปากคำก่อนที่จะถูกออกหมายจับ
ซึ่งจดหมายดังกล่าวนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะคุณแม่นายสามารถได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอไปหมดแล้ว
ทั้งนี้จดหมายดังกล่าวถูกเขียนขึ้นในห้องควบคุมตัวหลังจากที่แม่นายสามารถสอบปากคำแล้วเสร็จ แต่แม่นายสามารถจะเอาปากกาและกระดาษบันทึกคำร้องฝากขังฉบับดังกล่าวมาเขียนได้อย่างไร ตนไม่ทราบและไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนั้น
สำหรับประเด็นที่ ทำไมต้องนำทนายวิฑูรย์ซึ่งเป็นทนายความของบอสพอลมาเป็นพยานในการไต่สวนการประกันตัวของนายสามารถ
ทนายความ กล่าวว่า เป็นเพราะตนเองมีความรู้จักกับทนายวิฑูรย์อยู่แล้ว และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางคดีกันปกติ รวมทั้งทนายวิฑูรย์เป็นผู้รู้เกี่ยวกับจดหมายจากบอสพอล เพื่อยืนยันเกี่ยวกับตัวนายสามารถในเรื่องเส้นทางการเงินและเรื่องคลิปเสียง จึงได้เตรียมนำทนายวิฑูรย์มาเพื่อเบิกเป็นพยานหากศาลเปิดการไต่สวนการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงแนวทางการทำคำให้การเป็นหนังสือส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน
ทนายความ เผยว่า จะดำเนินการภายหลังจากยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวนายสามารถ แต่จริงๆแล้วตนได้บอกกับทางดีเอสไอ ว่าจะทำหนังสือภายใน 30 วัน แม้ทางดีเอสไอ จะให้เวลาเพียงแค่ 15 วัน แต่ถ้ามองว่าไม่ทันก็จะทำหนังสือขยายเวลาออกไป
เส้นทางการเงินที่ทางดีเอสไอ ดำเนินคดี คือ ก้อน 2.5 ล้านบาท ซึ่งต้องอธิบายว่า แม่นายสามารถได้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาท มีที่มาจากบอสพอลจำนวน 2 ล้านบาท และบอสปีเตอร์อีก 500,000 บาท
โดยเป้าหมายของเงินแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินที่คุณแม่นายสามารถขอยืมจากบอสพอลจำนวนทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาท ซึ่งภายหลังคุณแม่ได้โอนเงิน 1.7 ล้านบาท เข้าบัญชีนายสามารถ เพื่อเป็นการชำระหนี้แก่บอสพอล
ส่วนนายสามารถจะนำเงิน 1.7 ล้านบาท ไปให้บอสพอลด้วยวิธีการใด ตรงนี้ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นเส้นทางการเงินที่โอนผ่านบัญชี และก้อนที่เหลืออีก 800,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้รวมเงินจากบอสปีเตอร์ด้วย 500,000 บาทนั้น คือเงินทำบุญทั้งหมด
ส่วนที่ดีเอสไอ ตั้งประเด็นว่า จะสอบสวนเส้นทางการเงินจำนวน 100 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของแม่นายสามารถ และนายสามารถนั้น
ทนายความ เผยว่า ก็จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนเส้นเงินดังกล่าวและยืนยันว่า เงิน 100 ล้านบาทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ และไม่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีในเงินก้อนนี้ แต่ที่มาของเงินจำนวน 100 ล้านบาท มาจากไหน ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกความ
นายสามารถฝากกราบขอโทษและขอขมาไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้มีการล่วงเกินไปก่อนหน้านี้ และฝากความเป็นห่วงเป็นใยถึงแม่ ขอให้รักษาสุขภาพรักษาตัวเองให้ดี พักผ่อนเยอะๆ กำชับว่าแม่อย่าออกสื่อเยอะ กลัวแม่จะเครียด
ส่วนฝั่งคุณแม่นายสามารถเอง ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาเยี่ยมในวันนี้ แต่เนื่องจากนายสามารถยังติดแดนกักโรค ยังไม่สามารถเยี่ยมได้ แต่แม่นายสามารถก็ฝากความเป็นห่วงเป็นใยว่า อย่าอดอาหารเลย จะได้มีแรงในการต่อสู้คดี
ดูคลิป