เมียนมาจับกุม 11 คน รวมชาวญี่ปุ่น คดีโก่งราคาข้าว
ทางการเมียนมาจับกุม 11 คน ซึ่งรวมถึงผู้บริหารชาวญี่ปุ่น 1 คน ในคดีโก่งราคา โดยขายข้าวแพงกว่าราคาควบคุมที่ทางการกำหนด
สถานีโทรทัศน์ MRTV ของทางการเมียนมา รายงานในวันจันทร์ (1 กรกฎาคม) ว่า มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง ผู้บริหารบริษัทค้าข้าว นายทหาร และผู้ค้าปลีก โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการจำหน่ายข้าวในราคาสูงขึ้น 31%-70% จากราคาที่ทางการกำหนด
นอกจากนี้รายงานข่าวระบุว่า หนึ่งในผู้ถูกจับกุม คือ คาซามัตสึ ฮิโรชิ ชาวญี่ปุ่น ที่เป็นผู้บริหารของอิออน ออเรนจ์ เชนซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทอิออนของญี่ปุ่น และบริษัทครีเอชัน เมียนมา ที่อยู่ในนครย่างกุ้ง เขาและชาวเมียนมาอีก 3 คน ถูกระบุว่า โก่งราคาข้าวเพื่อสร้างความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ
การจับกุมนายฮิโรชิอาจสร้างความขัดแย้งกับญี่ปุ่นได้ และรัฐบาลญี่ปุ่น ยืนยันแล้วว่า ตำรวจในนครย่างกุ้งจับกับชาวญี่ปุ่นไว้สอบปากคำ และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการอย่างเหมาะสม และขอให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวเขาโดยเร็ว พร้อมกันนี้รัฐบาลกำลังติดต่อกับนายจ้างของชาวญี่ปุ่นรายนี้เพื่อให้การช่วยเหลือ
การปราบปรามดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลทหารกำลังเผชิญความยากลำบากในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายหนัก ในช่วงที่ประเทศยังเผชิญกับความขัดแย้งและการสู้รบ โดยรัฐบาลเพิ่มมาตรการควบคุมราคาสินค้าหลายชนิด แต่ไม่อาจหยุดยั้งราคาข้าวและสินค้าอื่น ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นได้
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนทางการเมียนมาจับกุม 35 คน ภายใต้มาตรการปราบปรามผู้ค้าทองคำและเงินตราต่างประเทศ รวมถึงตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินจ๊าต ที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว
ผู้ค้าข้าว บอกว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศที่ทางการกำหนด และราคาในตลาดมืดที่แตกต่างกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาข้าว
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ บอกว่า ความขัดแย้งภายในประเทศ หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2564 ที่นำไปสู่การประท้วงทั่วประเทศ และการสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านกับกองทัพ ทำให้การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการขนส่งข้าวหยุดชะงัก และผู้ค้าข้าว บอกว่า ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาข้าวแพงขึ้นเกินสองเท่าในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ และหากจำหน่ายข้าวในราคาที่ทางการกำหนด อาจทำให้ประสบปัญหาขาดทุน
ขณะที่สื่อทางการเมียนมา กล่าวโทษว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญ และการกักตุนในตลาดเป็นต้นเหตุให้ราคาสูงขึ้น