อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา กล่าวปราศรัยที่เมืองคาลามาซู ในรัฐมิชิแกน หนึ่งในรัฐสวิงสเตทเมื่อวันเสาร์ (26 ตุลาคม) เพื่อเรียกคะแนนเสียงให้กับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส โดยเป็นครั้งแรกที่เธอร่วมรณรงค์หาเสียงกับแฮร์ริส นับจากการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตเพื่อรับรองแฮร์ริสเป็นแคนดิเดตของพรรคเมื่อเดือนสิงหาคม
มิเชล โอบามา เตือนว่า การลงคะแนนเสียงให้กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ชีวิตของผู้หญิงตกอยู่ในความเสี่ยง โดยย้ำให้เห็นผลกระทบจากคำตัดสินของผู้พิพากษาศาลฎีกาสหรัฐฯ ในสมัยของทรัมป์ ที่กลับคำตัดสินคดีสำคัญ ทำให้สิทธิการทำแท้งไม่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ส่งผลให้หลายรัฐออกกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดในการห้ามทำแท้ง และส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้หญิง พร้อมทั้งวิจารณ์ว่าทรัมป์ไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิงต่อความซับซ้อนเรื่องนี้
นอกจากนี้เธอยังเรียกร้องให้ผู้ชายลงคะแนนเลือกแฮร์ริส เพื่อชีวิตของผู้หญิงและลูก ๆ ของพวกเขา และอย่าโหวตให้ทรัมป์ หรือ ผู้สมัครคนอื่น เพียงเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาล รวมทั้งพยายามเรียกร้องคะแนนเสียงจากผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจ และลังเลที่จะโหวตให้แฮร์ริสด้วยความคิดว่า ยังไม่รู้จักเธอดีพอ โดยบอกว่า แฮร์ริสเป็นคนที่เข้าใจทุกคน และเธอเองก็เป็นชนชั้นกลางที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยแม่ตามลำพัง
ส่วนแฮร์ริส ให้คำมั่นว่า จะนึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนเสมอ แตกต่างจากทรัมป์ ที่สนใจแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง และเธอพยายามเรียกคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งวัยหนุ่มสาว ซึ่งรวมถึงในเมืองคาลามาซู ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง โดยบอกว่า ชาวอเมริกันหลายรุ่นได้ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และเวลานี้โอกาสอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ ซึ่งหมายถึง Gen Z
รัฐมิชิแกนเริ่มเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าวันแรกเมื่อวันเสาร์ และมีผู้ใช้สิทธิแล้วกว่า 1.4 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นเกือบ 20% ของผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง
ที่รัฐมิชิแกน ทั้งแฮร์ริสและทรัมป์หาเสียงในวันดียวกันเพื่อหวังเรียกคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีทั้งชาวอเมริกันอาหรับและชาวมุสลิม ที่กังวลเรื่องสงครามในฉนวนกาซา และแรงงานที่กังวลเรื่องผลกระทบจากรถยนต์ไฟฟ้าต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ ที่มีศูนย์กลางในเมืองดิทรอยต์ เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชนะในรัฐมิชิแกนด้วยคะแนนเสียงเหนือทรัมป์เพียง 2.8% หรือเกือบ 150,000 เสียง ในการเลือกตั้งปี 2563 ขณะที่ทรัมป์ ชนะในรัฐนี้ด้วยคะแนนเสียงเหนือกว่า ฮิลลารี คลินตัน 0.23% ในปี 2559