World of Change EP.2 จะพาไปสำรวจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็ว ในยุคดิจิทัลนี้ AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือช่วยงานเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในหลากหลายมิติ
ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ดึงเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของการทำงานในด้านต่างๆ แต่ขณะในขณะเดียวกัน กลายเป็นว่าผู้คนกำลังตกงานเพราะ AI เนื่องจาก “ระบบอัตโนมัติ(AI)” สามารถเป็นกำลังแรงงานแทนมนุษย์ได้ ปัจจุบันเริ่มมีการคาดการณ์บทบาทของ AI โดยเฉพาะ Generative AI หรือ Gen AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ประเภทหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญในการสังเคราะห์ข้อมูลใหม่ จากชุดข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการทำงานของมนุษย์
ซานเจย์ ปัตไนค์ จากสถาบัน Brookings ชี้ว่า Gen AI จะเข้ามาสู่การทำงาน ที่ครั้งหนึ่งเคยต้องพึ่งพาเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น เขาอธิบายว่า "เบื้องต้น งานที่เสี่ยงมากที่สุดจะถูกทดแทนด้วย Gen AI คือ งานระดับเริ่มต้นทั้งหลาย" เช่น นักวิจัยการตลาด ผู้ช่วยนักวิจัย และนักวิเคราะห์ด้านการเงิน เพราะเป็นงานที่เกิดจากการทำซ้ำ และสามารถเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบอัตโนมัติได้ไม่ยาก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า ตลาดยังขาดบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และมองว่า AI จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกตำแหน่ง ที่ AI จะเข้ามาแทนที่ได้
อาบิเกล กิลเบิร์ต จากสถาบันวิจัยอิสระ "Institute for the Future of Work" ระบุว่า ในธุรกิจต่างๆ ทักษะด้านการสื่อสาร การคิดเชิงวิพากษ์ และความเป็นผู้นำ ยังเป็นที่ต้องการอย่างมากและมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดแรงงาน เป็นความสามารถที่ถูกพัฒนามาทั้งยังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก
ในทัศนะของนักวิชาการมองว่า AI ไม่ใช่แค่กระแส ที่มาแล้วหายไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่คงอยู่ และวิธีที่จะเอาตัวรอดในยุค AI ได้ คือการปรับตัวให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ในสายงานด้าน AI
ชอว์น ดาลี่ จากมหาวิทยาลัย Niagara รัฐนิวยอร์ก คาดว่าคนที่เข้าใจการทำงานของระบบ จะได้เปรียบ จากความสามารถเดิมที่มีอยู่จะถูกขยายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้เทคโนโลยีสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
และการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเปิดตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยในปีหน้า ทางทำเนียบขาวได้ประกาศเพิ่มการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จำนวนมากถึง 500 ตำแหน่ง กล่าวได้ว่า ในอนาคต AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
การประชุมหุ่นยนต์โลก ที่กรุงปักกิ่งของจีน หุ่นยนต์ที่ถูกจัดแสดงในงาน "เวิลด์ โรบอต คอนเฟอเรนซ์" ล้วนมีความโดดเด่นและความสามารถแตกต่างกัน บางตัวก็เหมือนมีชีวิต บริษัทที่ออกแบบหุ่นยนต์เหล่านี้ คือ "เอ็กซ์ โรบอตส์" ที่มีฐานอยู่ที่เมืองต้าเหลียน ของจีน
หลี่ โป้หยาง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ เอ็กซ์ โรบ็อตส์ ให้ความเห็นว่า "ในครอบครัว การแลกเปลี่ยนทางอารมณ์ และการสนับสนุนทางอารมณ์ มีความสำคัญมาก เราต้องการหุ่นยนต์ที่มีชีวิตชีวาในชีวิตของเรา สามารถให้บริการเราในฐานะหัวหน้าคนรับใช้ ในครัวเรือนได้ โดยไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง คนหนุ่มสาว หรือเด็กๆ พวกเขาต่างโหยหาหุ่นยนต์ประเภทนี้"
เขายังบอกด้วยว่า นอกเหนือจากการปรับปรุง การแสดงออกทางสีหน้า และการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ทีมงานของเขา ได้สร้างฮาร์ดแวร์ของหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้หุ่นยนต์ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่แตกต่างกันแบบไม่ขัดข้อง โดยหุ่นยนต์หญิงสาวในชุดสีขาว ชื่อ อิ้วเฉียน จาก บริษัท เอ็กซ์ โรบอตส์ จะถูกผลิตออกมา 500 ตัว และใช้งานได้ในปีนี้
บริษัทเทคโนโลยี แอสทริบอต โค. ลิมิเต็ด มีฐานอยู่ที่เสิ่นเจิ้น ได้นำหุ่นยนต์รุ่นใหม่ "แอสทริบอต เอส วัน" มาจัดแสดง ซึ่งสามารถเล่นเครื่องดนตรีโบราณ หยางฉิน เขียนอักษรจีน แสดงศิลปะการต่อสู้ ทำงานบ้านและเตรียมอาหารได้อีกด้วย ทางผู้บริหาร ระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นทัดเทียมมนุษย์
การประชุมระหว่างจีน-แอฟริกาใต้ ประจำปี 2024 ในกรุงปักกิ่ง ของจีน รองรับผู้สื่อข่าวมากกว่า 3,000 คน จากทั่วโลก โดยมีไฮไลท์ที่สร้างเซอร์ไพรซ์ ตั้งแต่เข้างาน คือ หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ที่เหมือนมนุษย์ ชื่อ "เสี่ยว ฉี" คอยให้บริการตรงเคาน์เตอร์ทางเข้า โดยเธอแนะนำตัวเองด้วยการบอกชื่อ แซ่ และตามด้วยประโยคที่ว่า "ถ้าคุณมีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือ ชั้นจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยคุณ"
ผู้สื่อข่าวที่ได้ลองคุยกับเสี่ยว ฉี บอกว่า "ต้องยอมรับว่า เธอค่อนข้างน่าประทับใจ ผมลองใช้ปัญญาประดิษฐ์มาหลายอย่างแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ เธอเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผมได้ลองมา"
ส่วนในประเทศเคนยา วิวัฒนาการของ AI เป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับที่นี่ กับการใช้หุ่นยนต์ในการเสิร์ฟอาหารที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก
ร้าน "โรบอต คาเฟ่" (Robot Cafe) ชานกรุงไนโรบีของเคนยา เป็นร้านแรกในแอฟริกาตะวันออก ที่ใช้หุ่นยนต์สาวเสิร์ฟ 2 ตัว มีชื่อว่า "นาเดีย" กับ "แคลร์" ดึงดูดลูกค้า และเสิร์ฟอาหาร
เกลดิส กูด้า หนึ่งในพนักงานเสิร์ฟ บอกว่า "บางครั้งเราก็ยุ่งมาก และมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ดังนั้นเมื่อมีลูกค้าเต็มร้าน เรามีพนักงานเสิร์ฟ 10 คน และหุ่นยนต์ 2 ตัว พวกมัน คือ เพื่อนร่วมงานของเรา ทุกตัวมีชื่อ และช่วยเราในงานบริการ และบริการได้อย่างสมบูรณ์แบบ"
ปัจจุบันมีการใช้หุนยนต์ในหลายประเทศ รวมทั้ง จีน ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เพียงแต่เป็นของใหม่ในแอฟริกาเท่านั้นใช้หุ่นยนต์ ทำให้เกิดความวิตกในหมู่ผู้แรงงานในเคนยา ที่กลัวว่าจะถูกแย่งงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการบริการ
ส่วนประเทศอังกฤษ ก็มีการใช้หุ่นยนต์เก็บสตรอว์เบอร์รี่ทดแทนมนุษย์ โดยเกษตรกรชาวอังกฤษ เสนอวิธีแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานเก็บผลไม้ นั่นคือการ "จ้างหุ่นยนต์" ที่สามารถเก็บสตรอว์เบอร์รี่ ได้มากถึงวันละ 200 กิโลกรัม หลังจากอังกฤษ ออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ทำให้เผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานเก็บผลไม้ แต่ล่าสุด ปัญหาถูกแก้ไขเพราะใช้แรงงานหุ่นยนต์ ที่ผลิตโดย "ด็อกทู้ธ เทคโนโยจี้ส์"
ดร.ดันแคน โรเบิร์ตสัน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของด็อกทู้ธ เทคโนโลจี้ส์ ระบุว่า นี่เป็นความท้าทายและโอกาส ทุกคนได้เห็นพาดหัวข่าว เกี่ยวกับฟาร์มที่กำลังดิ้นรน ในการสรรหาแรงงานให้เพียงพอ รับสมัครแรงงานที่มีทักษะเพียงพอ และเพื่อรักษาแรงงานที่พวกเขาฝึกฝนไว้เมื่อหลายปี
จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ในอนาคตระบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์ จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ในลักษณะเดียวกับที่ระบบอัตโนมัติรูปแบบอื่นๆ เช่น รถเกี่ยวนวดข้าว และเป้าหมายคือ การจัดหาสิ่งทดแทนการเลือกมนุษย์โดยสมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า หุ่นยนต์กำลังทำให้คนตกงาน แต่เป็นเพราะคนหนุ่มสาว ไม่เต็มใจที่จะทำงานนี้อีกต่อไป
บริษัทแอลจี บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ กำลังทำให้ปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่มขึ้นทางด้านความรู้สึกและเป็นมิตร ด้วยหุ่นยนต์ที่จะมาท้าทายว่า ผู้บริโภคอยากอยู่กับพวกมันหรือไม่
"คิวไนน์" ผลิตโดยแอลจี หุ่นยนต์ประจำบ้านรุ่นใหม่ ที่มาแนะนำการวาดรูปในแท็บเล็ต ที่เป็นการร่างภาพง่ายๆ บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพของดอกไม้กับผีเสื้อ ซึ่งเป็นจินตนาการของมัน ที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI คิวไนน์ เป็นส่วนหนึ่งของ "ธินคิว ออน" ระบบโฮมฮับที่ใช้เซ็นเตอร์ "คำสั่งเสียง" ของแอลจี เพื่อให้หุ่นยนต์ทำให้ชีวิตในครัวเรือนราบรื่นขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ความฉลาดที่น่าเสน่หา"
แอลจี สร้างนิยมใหม่ให้กับเทคโนโลยีเอไอล่าสุดว่า เป็นความฉลาดที่น่าเสน่หา คือ การดูแลผู้คน และคิวไนน์ ก็เป็นอุปกรณ์คู่ใจ เหมือนหุ่นยนต์ประจำบ้าน ด้วยเป้าหมายหลักคือ ทำให้หุ่นยนต์เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้น สอดรับกับครัวเรือนที่เริ่มเปลี่ยนไปเป็นเอไอโฮม ซึ่งหมายถึงอุปกรณ์ทุกอย่าง รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ถูกควบคุมด้วยเอไอ เป้าหมายอีกประการหนึ่งคือ เป็นมิตรกับเด็กด้วย
เคน แม็คเคนน่า นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี ให้ความเห็นว่า เมื่อพูดถึงการใช้งาน หุ่นยนต์สามารถตีตลาดได้แน่นอน และนอกจากจะช่วยเรื่องเด็กแล้ว ยังถูกออกแบบมาช่วยผู้ใหญ่ เช่น วางแผนการเดินทาง ใช้เวลานานเท่าไหร่ จึงจะถึงจุดหมายปลายทาง เป็นต้น
นิทรรศกาลอิเล็คทรอนิกส์ "ไอเอฟเอ" ที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี ระหว่างวันที่ 6-10 กันยายนที่ผ่านมา และล่าสุดในงาน Global Digital Trade Expo หรือ งานมหกรรมการค้าดิจิทัลโลก ครั้งที่ 3 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 29 กันยายน 2567 ณ Grand Exhibition Center นครหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ได้มีการแสดงนิทรรศการสินค้าและบริการบนพื้นที่กว่า 150,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 8 โซน ได้แก่ ข้อมูลและการเงิน การค้าดิจิทัล การขนส่งอัจฉริยะ การแพทย์ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ วัฒนธรรมและอุตสาหกรรมบันเทิงดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
เพื่อเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกับจีนและพันธมิตรต่าง ๆ ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพของประชาชน
งานนี้ได้ดึงดูดบริษัทผู้ประกอบการจากในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมมากกว่า 1,500 แห่ง ซึ่งเป็นบริษัทนานาชาติกว่า 300 แห่ง มหกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตของการค้าดิจิทัลและสร้างแรงกระตุ้นให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลคุณภาพสูง
โดยมีหัวข้อหลัก “การค้าดิจิทัล การเข้าถึงทั่วโลก” งานมหกรรมมีเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศการค้าดิจิทัลระดับโลก สำรวจความร่วมมือระหว่างประเทศ ส่งเสริมการค้าดิจิทัลระดับโลก และแบ่งปันความสำเร็จ
ปีนี้ คาซัคสถานและไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศเกียรติยศของงาน บริษัทชั้นนำจาก 32 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วมงานนี้ ผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศมีสัดส่วนมากกว่า 20% ทั้งในด้านจำนวนผู้แสดงสินค้าและพื้นที่จัดแสดงสินค้า รวมทั้งมีผู้เข้าร่วมจากนานาชาติมากกว่า 6,000 คนจากกว่า 100 ประเทศ
ประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงแบบครบวงจรหนึ่งพื้นที่ และพื้นที่จัดแสดงเฉพาะด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล 8 พื้นที่ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เส้นทางสายไหม ข้อมูลและการเงิน และปัญญาประดิษฐ์ ในพื้นที่จัดแสดงครบวงจร เกมยอดนิยมระดับโลกอย่าง Black Myth: Wukong จะร่วมมือกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ชั้นนำเพื่อนำเรื่องราวอันเป็นตำนานมาถ่ายทอดอีกครั้ง ส่วนในพื้นที่จัดแสดง AI หุ่นยนต์อัจฉริยะกว่า 50 ตัวจะแข่งขันกันอย่างใกล้ชิด สินค้าและเทคโนโลยีใหม่กว่า 400 รายการเกือบหนึ่งในสี่มาจากต่างประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนสูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก
จัดโดยรัฐบาลประชาชนมณฑลเจ้อเจียงและกระทรวงพาณิชย์ของจีน GDTE เป็นงานนิทรรศการระดับประเทศของจีนเพียงแห่งเดียวที่ มีธีมเกี่ยวกับการค้าดิจิทัล ทำหน้าที่เป็นหน้าต่างสำคัญที่นำเสนอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และระบบนิเวศใหม่ๆ ของการค้าดิจิทัลระดับโลกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
การประชุมระดับสูงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสร้างศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์ก
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้ประกาศแผนปฏิบัติการสร้างศักยภาพด้าน AI เพื่อประโยชน์และเพื่อทุกคน ได้กล่าวภายในงานว่า "ขณะนี้ ปัญญาประดิษฐ์อาจขยายช่องว่างทางดิจิทัลให้กว้างขึ้นเป็นช่องว่างด้านปัญญาประดิษฐ์ การสร้างศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับทุกคนเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ชัดเจนในการปิดช่องว่างด้านปัญญาประดิษฐ์นี้ เพื่อให้การพัฒนาและการนำความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ไปใช้สามารถเป็นประโยชน์ต่อทุกคนได้อย่างแท้จริง"
มีการเสนอวิสัยทัศน์ 5 ประการเกี่ยวกับพื้นที่ความร่วมมือที่ตอบสนองความคาดหวังของทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ การเสริมอำนาจให้กับอุตสาหกรรม การฝึกอบรมบุคลากร การพัฒนาข้อมูล และการกำกับดูแลความปลอดภัย
แผนปฏิบัติ 10 ประการที่จีนจะดำเนินการ รวมถึงการส่งเสริมการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และดำเนินการความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาและการใช้โมเดลและทรัพยากรด้านภาษา
การทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นของกลยุทธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์และการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนนโยบาย และแบ่งปันแนวทางปฏิบัติทางเทคนิคอย่างแข็งขันแผนปฏิบัติการมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมช่องว่างด้านปัญญาประดิษฐ์และส่งเสริมการนำวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติในปี 2030 ไปปฏิบัติ
“ขณะนี้ ปัญญาประดิษฐ์อาจขยายช่องว่างด้านดิจิทัลให้กลายเป็นช่องว่างด้านปัญญาประดิษฐ์ได้มากขึ้น การสร้างศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับทุกคนเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ชัดเจนในการปิดช่องว่างด้านปัญญาประดิษฐ์นี้ เพื่อให้การพัฒนาและการใช้ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์สามารถเป็นประโยชน์ต่อทุกคนได้อย่างแท้จริง”
งาน ไอเอฟเอ คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ ที่กรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี เมื่อเดือนที่แล้ว มีการจัดแสดงนิทรรศการ เทคโนโลยีต่างๆ เช่นกัน
ชางจู คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของบริษัท บอยเฟรนด์ (Bodyfriend) ซึ่งเป็นผู้ผลิต เก้าอี้แควนตัม บอกว่า นี่คือ "เก้าอี้นวดหุ่นยนต์ตัวแรก ที่ทำให้เคลื่อนไหวร่างกาย ได้อย่างอิสระจริงๆ" วางจำหน่ายแล้วทั้งในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ และตอนนี้ กำลังอยู่ระหว่างการเปิดตัวในยุโรป ในราคาไว้ที่ 13,000 ยูโร และยังไม่หยุดการพัฒนารุ่นต่อไป เพื่อการใช้งานในรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายด้วยโยคะ ที่อยู่ในโหมดแอ็คทีฟ เป็นประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุ ที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง และเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างจำกัด
มัลคอล์ม เบิร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของ "ทอยบ็อกซ์ แล็บส์" (Toybox Labs) กล่าวว่า "ถ้าคุณนึกย้อนกลับไปเมื่อประมาณแปดปี ใครๆ ก็บอกคุณว่าการพิมพ์ 3 มิติกำลังจะครองโลก แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งเหตุผลที่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็เพราะมันซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทอยบ็อกซ์ ทำให้มันง่ายอย่างเหลือเชื่อ"
เขายังกล่าวว่า บริษัทได้รวบรวมวัตถุต่างๆ กว่า 15,000 ชิ้นบนแพลตฟอร์มที่เด็กๆ สามารถพิมพ์ได้ และเครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์ของเล่นใหม่ได้ในทุกๆ 3.4 วินาที ทั้งยังอาจเป็นแรงบันดาลใจให้วิศวกรและนักออกแบบหน้าใหม่ ที่จะทำอาชีพการงานในอนาคต ที่ทำให้พวกเขาทำสิ่งที่สร้างสรรค์ ควบคุมโครงสร้างได้อย่างแท้จริง ทำให้เกิดความสามารถในการออกแบบ พิมพ์และประกอบเข้าด้วยกัน สร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับการจดจ่ออยู่หน้าจอสมาร์ทโฟน
แอรี่ มอร์เกลัน ผู้บริหารเอียร์ วิชั่น โปร บอกว่า เรารู้สึกว่าหู เป็นส่วนของร่างกายที่ถูกละเลย สมัยก่อนต้องไปพบแพทย์เพื่อใช้เวลาครึ่งวันในการตรวจและทำความสะอาด หรือไปสถานที่ ที่ไม่ปลอดภัย แต่อุปกรณ์ชิ้นนี้ จะช่วยให้คุณนำกิจวัตรการทำความสะอาดหู และดูแลหูกลับไปบ้านกับคุณได้ และทำอย่างปลอดภัย
ทั้งยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย "บีเบิร์ด เอียร์ วิชั่น โปร" (Bebird Ear Vision Pro) จึงเป็นอุปกรณ์ ที่มีกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลอยู่ที่ส่วนปลาย เพื่อใช้ในการตรวจช่องหู และทำความสะอาดขี้หูได้อย่างปลอดภัย เพราะเราสามารถมองเห็นได้ว่า มันเข้าไปถึงไหน จะได้ไม่ดันเข้าไปลึกจนเกินไป และปลอยภัยต่อหูของเรา
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือ AI และหุ่นยนต์กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของมนุษย์ แม้จะมีความกังวลเรื่องการทดแทนแรงงาน แต่ก็มีการพัฒนาเพื่อให้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับคุณภาพชีวิต โดยมีความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อพัฒนาและกำกับดูแลการใช้ AI อย่างเหมาะสม