“แพทองธาร” ทุบสถิติ 20 ปี ไว้วางใจมากสุด 319 เสียง พร้อมชำแหละที่มา

26 มีนาคม 2568 ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมากให้ความไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วัน 2 คืน ระหว่าง 24-25 มีนาคม 2568 ด้วยมติ 319 เสียง ต่อ 161 เสียง และงดออกเสียง 7 เสียง นั้น

ปรากฏว่า จำนวนเสียง 319 เสียง ที่ลงมติให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรีนั้น ได้รับจากพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งจาก พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคกล้าธรรม, พรรคประชาชาติ, พรรคชาติพัฒนา, พรรคชาติไทยพัฒนา, พรคไทรวมพลัง, พรรคเสรีรวมไทย และพรรคประชาธิปไตยใหม่



เว้นเพียงบางส่วนที่ไม่ปรากฏการลงมติ หรือไม่มาประชุม ประกอบด้วย ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ ไม่มาประชุม, นายสุพล จุลใส สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไม่มาประชุม เนื่องจากป่วยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล


 

ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 25 เสียงนั้น ลงมติให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรี 21 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ประกอบด้วย นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา

อย่างไรก็ตาม นายมังกร ยนต์ตระกูล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ที่มี พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นหัวหน้าพรรคฯ นั้น ได้ลงมติให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แม้ก่อนหน้านี้ พลตำรวจเสรีพิศุทธ์ ได้ออกมาแฉกรณีการพักรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ

 

ทั้งนี้ สำหรับมติไว้วางใจ 319 เสียง ที่นางสาวแพทองธารได้รับนั้น ยังเป็นมติไว้วางใจ ที่บุคคลที่เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดตั้งแต่ปี 2551 สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2551 ที่ได้รับมติไว้วางใจ 280 เสียง , นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับมติไว้วางใจมากที่สุดในการอภิปรายฯ ปี 2554 ด้วยมติ 249 เสียง , นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับมติไว้วางใจมากที่สุดในการอภิปรายฯ ปี 2555 ด้วยมติ 308 เสียง และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับมติไว้วางใจมากที่สุดในการอภิปรายฯ ปี 2563 และ 2564 ด้วยมติ 272 เสียง และล่าสุดนางสาวแพทองธาร ได้รับมติ 319 เสียง

ส่วน 161 เสียงของฝ่ายค้าน ที่หายไป 10 เสียง จากเสียงตั้งต้นเดิม 171 เสียงนั้น พบว่า พรรคประชาชน ในฐานะแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน สส.ของพรรคได้ลงมติไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นเพียง นางสาววรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ และนายสิริน สงวนสิน สส.กรุงเทพฯ ที่ไม่มาประชุม เนื่องจากป่วย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

พรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ในวันนี้ (26 มี.ค.) ได้นำทีม สส.ของพรรค ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่มี สส.แตกแถว 1 คน ได้แก่ นางสาวกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ ที่เตรียมไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม และล่าสุดเพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ 


พรรคไทยสร้างไทย สส. 6 เสียง แตกแถว 5 เสียง ประกอบด้วย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ, นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี, นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร และนายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี มีเพียงนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ที่ยังคงยึดมติพรรคฝ่ายค้าน

ขณะที่ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ พรรคไทยก้าวหน้า ที่ขณะนี้ เป็นผู้ต้องหาในคดีล่วงข่มขืนนักท่องเที่ยวไต้หวัน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น ได้ลงมติให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หลังก่อนหน้านี้ได้ยืนหยัดทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชน ภายหลังถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากนี้ นายไชยามพวาน จะไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม
นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ พรรคไทยก้าวหน้า
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม