26 มีนาคม 2568 ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม ได้ดำเนินการอภิปรายเสร็จสิ้นไปแล้วตลอดสองวันที่ผ่านมา โดยวันนี้ (26 มีนาคม 2568 ) นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา ประธานสภาฯ มีกำหนด นัดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงมติ ไม่ไว้วางใจหรือไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ในเวลา 10.00 น. ที่อาคารรัฐสภา ร่วมติดตามรับชม ผลการลงคะแนนไปพร้อมๆกัน ได้ที่นี่
คลิก รับชมการถ่ายทอดสด >>>
ปัจจุบัน มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหมด 493 คน เป็น พรรคร่วมรัฐบาล 322 คน พรรคร่วมฝ่ายค้าน 171 คน จำแนกดังนี้
พรรคร่วมรัฐบาล
พรรคเพื่อไทย (พท.) 142 คน
พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 69 คน
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 36 คน
พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 คน
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 25 คน
พรรคกล้าธรรม (กธ.) 24 คน
พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 คน
พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) 3 คน
พรรคไทรวมพลัง (ทร.) 2 คน
พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปชม.)1 คน
พรรคเสรีรวมไทย (สร.) 1 คน
รวม 322 คน
พรรคร่วมฝ่ายค้าน ดังนี้
พรรคประชาชน (ปชน.) 143 คน
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 20 คน
ไทยสร้างไทย ( ทสท.) 6 คน
ไทยก้าวหน้า (ทกน.) 1 คน
พรรคเป็นธรรม (ปธ.) 1 คน
รวม 171 คน
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 วรรคสี่ กำหนดว่า มติ "ไม่ไว้วางใจ" ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบันส.ส. ในสภามีจำนวน 493 คน ดังนั้น ต้องมีเสียงไม่ไว้วางใจ 247 เสียงขึ้นไปลงมติ “ไม่ไว้วางใจ” จึงจะทำให้นายกฯ หรือ รัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (3)
อนึ่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ในสภา ( โดยทั่วไปคือ 100 คน) มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ
โดยเมื่อได้มีการเสนอญัตติแล้ว นายกรัฐมนตรี จะยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐมนตรีหลีกหนีการถูกอภิปราย
การออกเสียงลงมติไม่ไว้วางใจ ห้ามมิให้กระทำในวันเดียวกันกับที่การอภิปรายสิ้นสุด
ทั้งนี้เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มีเวลาไตร่ตรอง มติไม่ไว้วางใจจะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร (โดยทั่วไปคือเท่ากับหรือเกินกว่า 251 เสียง)
ปัจจุบันมีสส.ในสภา 493 คน ดังนั้นต้องมีเสียงไม่ไว้วางใจ 247 เสียงขึ้นไป ลงมติไม่ไว้วางใจ ก็สามารถทำให้นายกฯหรือ รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งได้ ตามรธน. มาตรา 170 (3)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 170 บัญญัติว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ
(4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160
(5) กระทําการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือมาตรา 187
(6) มีพระบรมราชโองการให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 171
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ประชุมสภาได้ลงมติ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี โดยผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนี้
ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี 319 เสียง ไม่ไว้วางใจ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนน - เสียง ผลการลงมติไม่ไว้วางใจไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ส่งผลให้ นายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไป