"สุริยะ" แจง 2 โครงการซูเปอร์ดีลแสนล้าน ยันไม่เอื้อนายทุน

25 มีนาคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ชี้แจงกรณี นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.พรรคประชาชน กล่าวหา การแก้สัญญาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ที่บอกให้เอกชนคว้าสัมปทานได้ก่อน แล้วค่อยหาประโยชน์เพิ่มด้วยการแก้สัญญา และการขยายสัมปทานทางด่วน ที่ให้เอกชนได้สิทธิ์กินเต็มอิ่ม แล้วอยากกินต่อเลยขอขยายสัมปทานไปเรื่อย

นายสุริยะ ระบุว่า ตนนั่งฟังการอภิปรายอย่างตั้งใจ ซึ่งหลายท่านอาจจะรู้สึกเช่นเดียวกันว่า ผู้อภิปรายมีความพยายามสร้างเรื่องราวบิดเบือนข้อเท็จจริงจากจินตนาการ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า มีการวางแผนเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนคู่สัญญา หรือที่ผู้อภิปรายเล่นคำว่า “ซูเปอร์ดีล” โดยบิดเบือนข้อมูล นำมูลค่าที่สูงกว่ามูลค่าโครงการมาพูด ซึ่งเรื่องนี้ล้วนมาจากจินตนาการทั้งนั้น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม

 

นายสุริยะ กล่าวว่า การอภิปรายทั้ง 2 โครงการ เป็นการกล่าวหาเพียงลอยๆ ซึ่งตนเห็นด้วยกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้เมื่อวานว่า ไม่ทราบว่าท่านผู้อภิปรายกำลังอภิปรายรัฐบาลไหน เพราะเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาและทั้ง 2 โครงการ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการชุดต่างๆ ยังไม่มีมีการนำเข้าสู่ ครม. ดังนั้นการเรียกร้องให้นายกฯ ตอบคำถามจึงเป็นไปไม่ได้ ตนในฐานะ รมว.คมนาคม จึงได้รับมอบหมายให้มาตอบชี้แจง

การพยายามพูดว่า มีการเอื้อประโยชน์ หรือมีผู้ใหญ่ หรือนายน้อย สั่งการอยู่เบื้องหลัง ตนขอชี้แจงว่า ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว กับคู่สัญญาของทั้ง 2 โครงการ แล้วจะไปเอื้อประโยชน์ได้อย่างไร ตรงกันข้ามตนพยามแก้ปัญหาให้ประชาชนและภาครัฐ ปัญหาจราจรติดขัด ค่าผ่านทางแพง และโครงการที่ลงทุนไว้แล้ว แต่ดำเนินการต่อไม่ได้ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนและภาครัฐเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงไม่มี “ซูเปอร์ดีลแสนล้าน”
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.พรรคประชาชน 
 

นายสุริยะ อธิบายว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ทำสัญญา และอนุมัติโครงการตั้งแต่ 27 มี.ค.61 ลงนามสัญญาร่วมทุน 24 ต.ค.62 และรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารงานวันที่ 12 ก.ย.67 ซึ่งมีระยะทางอยู่ 5 ปี ดังนั้นตนจึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งในการสร้างปัญหา แต่ตนเข้ามาแก้ไขปัญหา

นายสุริยะ ยังชี้แจงว่า ส่วนการขยายสัมปทานทางด่วน ที่อภิปรายกล่าวหาว่า โครงการนี้เป็นการหาเหตุต่อขยายสัมปทานทางด่วน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ตนปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตนต้องการแก้ไขปัญหาจราจรให้กับประชาชน เพราะตนก็สัญจรเส้นทางนี้เช่นเดียวกัน โดยประชาชนที่ใช้ทางด่วนศรีรัชพระราม 9 ถึงงามวงศ์วาน ต้องเผชิญกับปัญหารถติดมาก รวมถึงการจ่ายค่าผ่านทางที่แพงมาก

เมื่อตอนเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 66 จะรับรายงานว่า โครงการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรบนโครงข่ายทางด่วนชั้นในกรุงเทพมหานคร ที่เปิดใช้งานมาแล้วเกือบ 40 ปี ซึ่งเดิมออกแบบไว้รองรับประชาชนและการจราจร 8-9 แสนคันต่อวัน แต่ปัจจุบันการจราจรเพิ่มขึ้น 1 -1.2 ล้านคันต่อวัน โดยเฉพาะทางด่วน พระราม 9 - งามวงศ์วาน

ซึ่งโครงการ Double deck มาจากรัฐบาลในอดีต ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ก.พ.63 ที่กระทรวงคมนาคมโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ไปศึกษาหาทางแก้ไขปัญหาบนทางด่วนที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต

โดยการทางพิเศษได้ศึกษาวิเคราะห์และเสนอผลศึกษาตามลำดับ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเมื่อวันที่ 5 เม.ย.65 หากโครงการ Double deck แล้วเสร็จ ประชาชนผู้ใช้ทางจะสามารถลดระยะเวลาการเดินทางบนทางด่วน ช่วง พระราม 9-ถึงงามวงศ์วาน จาก 60 นาที เหลือเพียง 40 นาที และทำให้ความเร็วเฉลี่ยการเดินทางเพิ่มขึ้น จาก 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 27 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหากโครงการนี้สำเร็จจะทำให้ประชาชนประหยัดน้ำมันและเวลาในการเดินทางคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 7 พันล้านบาทต่อปี 

ซึ่งหากไม่สร้างตอนนี้ รอสัมปทานปัจจุบันสิ้นสุด จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปอีกนับ 10 ปี และประเทศชาติเสียโอกาส ซึ่งทำให้ตนไม่สามารถยอมได้
 

ผมเคยพูดไว้ว่า หากผู้อภิปรายมีข้อแนะนำในภารกิจของกระทรวงคมนาคม หรือต้องการข้อมูลที่ไม่มีความชัดเจน หรือสงสัย ขอเชิญหรือติดต่อโทรศัพท์ หรือไปหาผมได้ที่กระทรวงคมนาคม แต่ที่ผ่านมา นายสุรเชษฐ์ ไม่เคยเข้าไปที่กระทรวงคมนาคมแม้แต่ครั้งเดียว
 

ตนขอพูดดังๆ ว่า หากผู้อภิปราย มีข้อสงสัยในภารกิจของกระทรวง หรือต้องการข้อมูล ให้ไปพบตนที่กระทรวง เพื่อได้รับข้อเสนอแนะ และข้อมูลข้อเท็จจริง ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งตนยืนยันจะให้ความร่วมมือเต็มที่