27 มกราคม 2568 "นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามสมาชิกวุฒิสภา ถึงความคืบหน้าการปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทย ที่ถูกทางการเมียนมาคุมตัวเกือบ 60 วันแล้วว่า ตั้งแต่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น รัฐบาลได้เจรจากับทางการเมียนมามาโดยตลอด และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานตั้งแต่วันแรกตามขั้นตอนในการตอบโต้ทางการทูต ตั้งแต่ระดับเบาไปถึงหนัก และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือ 4 ลูกเรือไทยกลับประเทศก่อนเป็นอันดับแรก แต่แต่ละประเทศมีขั้นตอน และระยะเวลาในการพิจารณาในการปล่อยตัวแตกต่างกันไป
"นายมาริษ" ยังเปิดเผยว่า ตนเองได้เจรจากับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา ทั้งทางโทรศัพท์ และพบกันโดยตรง ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา ให้การยืนยันว่า จะติดตามให้มีการปล่อยตัวลูกเรือไทยอย่างเต็มที่ และทั้ง 2 ประเทศ จะร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องนี้ประทบความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันอีก
"นายมาริษ" ยังระบุอีกว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา ได้ขอบคุณที่ฝ่ายไทย พยายามลดความร้อนแรงของประเด็นดังกล่าวในสาธารณะ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการหารือในการแก้ไขปัญหา จึงขอยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ และจะพยายามช่วยเรือลูกเรือไทยต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ทางการเมียนมา ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง พาญาติไปเยี่ยมลูกเรือไทย และนำยา สิ่งของจำเป็นไปให้ ซึ่งปัจจุบัน 4 ลูกเรือไทยมีสุขภาพที่ดี มีกำลังใจดี ได้รับการดูแลตามความเหมาะสม
แฟ้มภาพ 4 ลูกเรือประมงชาวไทย ที่ยังถูกทางการเมียนมา ควบคุมตัวเอาไว้
ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้นั้น "นายมาริษ" ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวใน 2 ระดับ ประกอบด้วย ระดับการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ พยายามผลักดันให้มีการปล่อนตัวลูกเรือไทยโดยเร็ว และให้ คณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย-เมียนมา เป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ ประสบความสำเร็จในการเจรจาช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยจากประเทศพื้นบ้าน และกระทรวงแรงงาน จะดูแลครอบครัวของลูกเรือและแรงงานที่ได้รับผลกระทบ จึงขอให้ทุกคนมั่นใจในการช่วยยเหลือ 4 ลูกเรือ และทรัพย์สินกลับประเทศไทยให้ได้ ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า ไม่ได้ทอดทิ้ง หรือปล่อยปะละเลย และจะประสานขอเข้าเยี่ยมอีก