13 มกราคม 2568 "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่อาคารเอนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ภายใต้โครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน" โดยได้แสดงความยินดี และดีใจที่เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่จะได้เริ่มต้น และเป็นโอกาสที่ดีในการทำให้คนไทย มีที่ดินสำหรับอยู่อาศัย และมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และสามารถส่งมอบต่อให้ลูกหลานได้ ซึ่งจะเป็นรากฐานทำให้ทุกคน มีจิตใจที่มั่นคง เข้มแข็ง ยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น สร้างประโยชน์ในพื้นที่เล็ก ๆ และขยายเป็นวงกว้าง เพื่อประโยชน์ให้ประเทศไทย และเกิดความมั่นคงในชีวิตมากยิ่งขึ้น
พร้อมย้ำ ความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้คนไทยทุกคน มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ซึ่งสิ่งนี้เป็นเกียรติที่ประชาชนจะได้รับ และหลังจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ นำที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ในความครอบครองของส่วนราชการต่าง ๆ มาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ดิน และที่อยู่อาศัยด้วยการให้ประชาชนได้เช่าในอัตราผ่อนปรน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงที่ดินทำกินมากขึ้นต่อไป พร้อมขอให้ผู้ที่ได้รับสัญญาเช่า มีความสุขบนที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายของตนเอง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกไล่ที่ หรือโยกย้ายไปพื้นที่อื่น ซึ่งเป็นความตั้งใจของรัฐบาลทำให้ประชาชนมีความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม "นายกรัฐมนตรี" ยังระบุว่า แม้การมอบสัญญาเช่าพื้นที่ธนารักษ์จะทำให้ประชาชนยิ้มได้ แต่ก็ยังมีปัญหาสังคมที่จะต้องแก้ไข โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ที่รัฐบาลจะจัดการให้ดีที่สุด เพราะผู้เสพยาไม่ถือว่าเป็นคนเลว หรือคนผิด แต่เป็นคนที่พลาดไป และสังคมก็พร้อมที่จะรับกลับคืนมาเมื่อเลิกยาเสพติดแล้ว และจะต้องมีการพัฒนาอาชีพ ซึ่งสอดคล้องว่า หากมีที่ดินทำกินก็สามารถประกอบอาชีพสุจริตได้ เพื่อให้มีอนาคตที่ดีต่อไป
ขณะที่ "นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า รัฐบาล และกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย และที่ทำกินให้แก่ประชาชน เพื่อความมั่นคงในขีวิต ให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จึงให้กรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีภารกิจหน้าที่ปกครอง ดูแล และบำรุงรักษาที่ราชพัสดุ นำที่ราชพัสดุในความครอบครองของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในราชการมาสนับสนุนการดำเนินโครงการของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ประชาชน
โดยจัดให้ประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุอยู่ก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 และไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ เช่าที่ราชพัสดุในอัตราผ่อนปรน ผ่านกลไกการจัดให้เช่าของกรมธนารักษ์ตามกฎหมายที่ราชพัสดุ ส่งผลให้ราษฎรที่ยินยอมเช่าที่ราชพัสดุ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน สามารถเข้าถึงระบบสาธารณูปโภค และระบบสาธารณูปการ สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของทางราชการ สร้างรายได้ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมได้
สำหรับสัญญาเช่าที่ราชพัสดุที่ประชาชนได้รับในวันนี้ (13 ม.ค.) มีประชาชนได้รับมอบสัญญาเช่าทั้งสิ้น 1,081 คน ทั้งในอำเภอเมืองนครสวรรค์, อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายของการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไว้อย่างน้อย 5,055 สัญญา ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้ประชาชน เข้าถึงระบบสาธารณูปโภค การเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ และช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน สร้างความเจริญเติบโตให้แก่เศรษฐกิจในท้องถิ่น และเป็นการส่งต่อโอกาสและความมั่นคง ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสที่ใฝ่ฝัน และสามารถทำความฝันของตนเองให้เป็นจริงได้