16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุม กกต. มีวาระพิจารณารายงานผลการตรวจสอบกรณี พ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา ถูกร้องว่ากระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ กรณีแจ้งว่าจบการศึกษาจาก california university ในการยื่นสมัคร สว. และผลการตรวจสอบกรณีถูกกล่าวหาว่าฮั้วเลือก สว. โดยเห็นว่ายังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจน จึงให้ทางสำนักงานไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวก่อนหน้านี้ กกต. ระบุว่าได้เร่งให้สำนักงานฯ สอบสำนวนที่ พ.ญ.เกศกมล ถูกกล่าวหาว่าฮั้วเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ และเสนอมาให้กกต. เพื่อพิจารณาไปพร้อมกับสำนวนการสอบกรณีถูกกล่าวหาว่าใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวงให้เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ภายในสิ้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งกรณีการใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวงนั้น หาก กกต. มีมติว่ากระทำผิดจริงตามมาตรา 77(4) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 ที่กำหนดว่าผู้ใดกระทำการหลอกลวง บังคับขู่เข็ญใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิ์เลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี โดยจะเป็นการเสนอเรื่องไปยังศาลฎีกาตามมาตรา 62 ซึ่งหากศาลประทับรับฟ้อง พ.ญ.เกศกมล จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา