นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมี นายจักรพรรดิ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), ผู้บริหาร กกท., บุคลากรทางการกีฬา และนักกีฬา ร่วมงาน ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กกท. เมื่อวันจันทร์ ที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
เนื่องในโอกาสวันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันกีฬาแห่งชาติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานด้านกีฬาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นต้นแบบจากการทรงกีฬามาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ รวมไปถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวไทยเห็นคุณค่าความสำคัญของการกีฬา ซึ่ง กกท. ในฐานะองค์กรหลักที่รับผิดชอบการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ จึงได้จัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และบุคลากรกีฬา ที่ได้สร้างผลงาน และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดี และขอขอบคุณนักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง ที่ต้องเสียสละทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการฝึกซ้อม และสามารถที่จะทำผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งในรอบปี 2567 ที่ผ่านมา ผลงานของนักกีฬาไทย ถือได้ว่าอยู่ระดับแถวหน้าของภูมิภาคเอเชีย และของโลก ทั้งนี้ ในนามของรัฐบาลไทย จะเดินหน้านโยบายเพื่อส่งเสริมการกีฬา บุคลาการทางการกีฬาของชาติในทุกมิติ ทั้งด้านกีฬากับเยาวชนและสังคม กีฬากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือซอฟพาวเวอร์ รวมไปถึงกีฬาเพื่อความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย กกท. ได้เริ่มจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 จนถึงปัจจุบันปี พ.ศ. 2567 นับเป็นครั้งที่ 39 แล้ว โดยในปี 2567 นี้ กกท. จัดงานภายใต้ 4 แนวคิดหลัก คือ Society (กีฬาสร้างเยาวชน สร้างสังคม), Economy (กีฬาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ Soft Power World Class Sports Event), Globality (กีฬาสร้างชื่อเสียงระดับโลก) และ Sustainability (กีฬาพัฒนาสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ) โดยเน้นจัดกิจกรรมในรูปแบบ Eco – Friendly ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และบุคลากรกีฬานี้ ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ทุกท่านที่ได้รับรางวัล ความสำเร็จที่ได้รับจากการแข่งขันกีฬา นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่ชาวไทยทุกคน และเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชน และประชาชนหันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬาอันจะเป็นประโยชน์ทางสังคม ทำให้คนในประเทศชาติมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย
สำหรับการมอบรางวัลในปีนี้ มีทั้งสิ้น 44 รางวัล ดังนี้
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการมอบรางวัลให้กับนักกีฬาชายและหญิงดีเด่นของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และรางวัลสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย รวม 320 รางวัล, การจัดนิทรรศการงานวันกีฬาแห่งชาติ และการจัดเสวนาวิชาการออนไลน์ของฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา “SAT SCIENCE OF RUNNING " และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) อีกด้วย