16 ธันวาคม 2567 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานกรณีศาลจังหวัดเกาะสอง ตัดสินจำคุกลูกเรือประมงไทยในข้อหาลักลอบทำประมงในน่านน้ำประเทศเมียนมา โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก "นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ว่า กระบวนการนี้เป็นกระบวนการปกติ ที่จะพิพากษาดำเนินคดี และจะมีการอภัยโทษต่อเนื่องมา ซึ่งทางฝ่ายไทยได้คุยเรื่องนี้ และประสานไปเรียบร้อยแล้วว่าจะมีการอภัยโทษเกิดขึ้น
ส่วนที่เคยบอกว่าจะมีข่าวดีหลังปีใหม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังเป็นไปตามกรอบเดิม
ด้าน "นายมาริษ" อธิบายเพิ่มเติมว่า กระบวนการดังกล่าวไม่ได้หมายถึงการติดคุกไปก่อน แต่เป็นกระบวนการภายในของเมียนมา ซึ่งเหมือนกระบวนการทั่วไปที่มีข้อหาว่าไปละเมิดน่านน้ำ จึงเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่มีการดำเนินการอะไรจะถือเป็นความผิดของรัฐบาล แต่เราได้ขอความร่วมมือในการขอปล่อยตัวก่อนเวลา หรือที่เรียกว่า Early release มาตั้งแต่ต้น แต่ก็อยากให้กระบวนการภายในของเมียนมาเรียบร้อยก่อน เช่นเดียวกับกระบวนการภายในของไทย ที่ต้องดำเนินคดีก่อน ต้องพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมยืนยันว่า กรอบนี้จะไม่ยืดเยื้อ
ส่วนที่ถูกตัดสินให้จำคุก 4-5 ปีนั้น "นายมาริษ" ระบุว่า นั่นคือการพิจารณาของทางการเมียนมา แต่ในความร่วมมือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดี และความร่วมมือระหว่างประเทศ สามารถที่จะพูดคุยกัน เพื่อให้มีการอภัยโทษได้
สำหรับกรณีที่มีการจับกุมชาวเมียนมาได้ที่น่านน้ำระนองเมื่อคืนที่ผ่านมา สามารถเจรจาแลกเปลี่ยนกันได้หรือไม่ "นายมาริษ" กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน พร้อมยืนยันว่า ณ ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบเดิม คือ จะได้รับการปล่อยตัวหลังปีใหม่
กต.เร่งประสานทางการเมียนมาของปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทยหลังศาลพิพากษา
" นายนิกรเดช พลางกูร" อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ศาลเกาะสองได้พิพากษาคดีลูกเรือประมงไทย 4 คน และลูกเรือประมงเมียนมา 27 คนว่า ฝ่ายเมียนมาอ้างอิงการพิพากษาดังกล่าวตามกฎหมายด้านการทำประมงของเรือต่างชาติของเมียนมา และกฎหมายเข้าเมืองเมียนมา
ขณะที่ " เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง" ได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาทันทีที่ได้รับทราบผลการตัดสินของศาล เกี่ยวกับขั้นตอนนับจากนี้เพื่อนำไปสู่การปล่อยตัวลูกเรือไทยโดยเร็ว ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามพัฒนาการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป