svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พิชัย" ชงไอเดีย ผ่าปมร้อนพท.ทับซ้อนทางทะเล"ไทย-กัมพูชา"

อดีตรมว.พลังงาน "พิชัย นริพทะพันธ์ุ รมว.พาณิชย์คนปัจจุบัน เสนอไอเดียผ่าปมร้อน กรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย - กัมพูชา เร่งดึงแหล่งพลังงานใต้ทะเลมาใช้ประโยชน์ก่อนสายเกินไป

27 ตุลาคม 2567  เป็นอีกประเด็นร้อน ที่รอวันปะทุ โหมเข้าใส่"รัฐบาลแพทองธาร" อีกครั้ง  นั่นคือ กรณีปัญหา"พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา" ซึ่งถ้าหากเราติดตามความเคลื่อนไหวเครือข่ายภาคประชาชน เริ่มมีการหยิบยกประเด็นนี้ออกมาพูดกันมากขึ้น ถึงขนาดว่า หาก "แพทองธาร ชินวัตร" นายกฯ มีการเจรจาข้อตกลงกับกัมพูชา จะออกมาชุมนุมต่อต้านทันที 

ในเรื่องนี้ "เนชั่นทีวี" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันที่มาพบปะ คณะผู้บริหารในเครือเนชั่น ทั้งนี้ "นายพิชัย" เคยดำรงตำแหน่งรมว.พลังงาน และเคยเป็นอดีตที่ปรึกษา"นายกฯเศรษฐา ทวีสิน" ได้ติดตามกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนด้วย    

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันที่มาพบปะ คณะผู้บริหารในเครือเนชั่น     

เสนอไอเดียไทย-กัมพูชาบริหารแหล่งพลังงานร่วมกัน 

 

"นายพิชัย" กล่าวว่า  เนื่องจากเป็นเรื่องกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน  แต่เนื่องจากเคยทำงานกระทรวงพลังงานมาก่อน อยากเสนอไอเดียเพียงแต่แยกเจรจาพื้นที่ ออกจากเรื่องพลังงาน เรื่องพลังงาน ถ้าไม่ใช้ตอนนี้ไม่มีค่าแล้ว เนื่องจากอีกหน่อยโลกจะไม่ให้ใช้แก๊สแล้วตามข้อตกลง เน็ตซีโร ( NET ZERO ) ภายปี 2050  ฉะนั้น แก๊สหรือน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งมูลค่า10-20 ล้านล้าน ถ้าสูญเสียไปโดยไม่เกิดประโยชน์น่าเสียดาย  

แฟ้มภาพ รายการข่าวเที่ยงเนชั่น

"ฉะนั้น การที่จะร่วมพัฒนา นำพลังงานขึ้นมาใช้ โดยไม่พูดถึงพื้นที่ขัดแย้ง เพราะหากเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนมันไม่จบหรอก ไม่ใช่เฉพาะไทย –กัมพูชา ทั้งโลกมีปัญหาพั้นที่ทับซ้อนก็ยังไม่จบเลย เราควรหยิบยกการนำพลังงานขึ้นมาใช้ก่อน ซึ่งข้อตกลงส่วนนี้บรรลุผล ปัญหาที่สอง เราก็คงไม่ทะเลาะกันแล้ว อีกอย่างจะทำให้ค่าไฟถูกลง เราจะเหลือต้นทุนพลังงาน จากพื้นที่ทับซ้อนเหมือนอ่าวไทย ต้นทุนสอง-สามบาท  นี่เป็นส่งที่เราอยากเสนอ และรัฐจะได้รายได้จากสัมปทาน อย่างสมัยผม(ที่เป็นรมว.พลังงาน )  ได้ปีละ 2-3แสนล้าน รัฐได้ภาษีเพิ่มขึ้นรวมแล้วเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่าปีละล้านล้านบาท" 

"ขุดมาแบ่งกันดีกว่า ตกลงกันให้ได้ นำพลังงานมาแบ่งแยกทั้งสองประเทศ โดยไม่พูดถึงพื้นที่ที่มีปัญหา น่าเป็นทางออกดีที่สุด"  นายพิชัย กล่าว  

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  

 เร่งทำความเข้าใจคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ 

ส่วนที่มีเครือข่ายภาคประชาชน เคลื่อนไหวต่อต้านทันที หากรัฐบาลเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย- กัมพูชา "นายพิชัย" กล่าวว่า ส่วนนี้เป็นปัญหาประเทศไทย เราไม่ได้มองประโยชน์ของประเทศ ถ้าเราจะชนะคะคานนำการเมืองมาเป็นปัญหา โอกาสประเทศจะเสียหาย อย่างที่ผมบอก เราจะทิ้งเงินสิบล้านล้านทิ้งไปเลย เพราะถ้าเวลาฟอสซิลไม่ให้ใช้แล้ว และยังไม่พูดถึงคาร์บอนเครดิตที่เริ่มจ่ายแล้วอีกด้วย อีกนานไปยิ่งเจ็บมากขึ้น มูลค่าจ่ายคาร์บอนเครดิตอาจสูงกว่าราคาแก๊สน้ำมันอีก  ที่นำพลังงานใต้ทะเลมาใช้อีก เราจะใช้หรือ  

พิชัย นริพทะพันธุ์  รมว.พาณิชย์

 

"บางครั้งเราต้องปรับวิธีคิด เหมือนอย่างสหรัฐเลือกประธานาธิบดีจะทะเลาะกันอย่างไร สุดท้ายมองเห็นประโยชน์ของประเทศ มากที่สุด ผมอยากให้คนไทย นักการเมืองไทย นักเคลื่อนไหว มองผลประโยชน์ชาติมากที่สุด ว่าเรื่องนี้ ใครได้ประโยชน์ ประชาชนได้ประโจยชน์ไหม ค่าไฟฟ้าจะถูกลงไหม คนก็มาลงทุนมากขึ้น ได้ค่าภาคหลวง มีปิโตรเคมีคัล ได้ธุรกิจต่อเนื่อง   ผมไม่ได้มีธุรกิจพลังงานทั้งสิ้น เพียงแต่มองประโยชน์ของประเทศจริงๆ"

"อยากให้คนในประเทศทุกคน อะไรเป็นประโยชน์ เชื่อว่าประชาชนได้ เรื่องนื้ทำแล้วใครได้  และเชื่อว่าประชาชนได้ และกัมพูชาก็ได้ประโยชน์ เขาอยากได้แก๊ส อยากได้รายได้ แต่เชื่อว่าเขาคงขายให้เราหมด เพราะถ้าเขาจะไปสร้างโรงแยกแก๊ส สร้างปิโตรเคมีคัล คงไม่ทันกับคาร์บอนเครดิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะฉะนั้น เขาคงขายให้เรา เรามาแยกแก๊ส ได้ผลประโยชน์ คุณได้ 6-20 เท่า จ่ายเท่าไหร่ก็คุ้ม" นายพิชัย กล่าว