svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

แกะรอย "ดิไอคอน กรุ๊ป" เหนือ "บอสพอล" ยังมี "บิ๊กบอส ป.อ." ( ชมคลิป )

แกะรอย "คดีดิไอคอนกรุ๊ป"  ทำให้ เราพบตัวละครสำคัญหลายราย ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ชนิดที่เรียกว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือ"บอสพอล" ยังมี "บิ๊กบอส ป.อ." ( ชมคลิป )  

21 ตุลาคม 2567  การตรวจสอบขยายผลคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่พบผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกงทรัพย์สินจำนวนมาก ต้องสูญเงินแตะพันล้านบาท ยังดำเนินต่อไป เพราะไม่เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบตัว "บอสพอล" และกลุ่มผู้บริหาร ศิลปินดารา สอบสวนแล้ว หากแต่ยังพบว่า คดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ไม่น่าจบเพียง 18 คน 

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่รัฐ กำลังทำงานกันอย่างหนักต่อจิ๊กซอว์ ถึงตัวการสำคัญ ผ่านพยานหลักฐาน โทรศัพท์มือถือ บรรดาบอส  และเซอร์ฟเวอร์ ของ"ดิไอคอนกรุ๊ป" จนทำให้พบว่า การดำเนินงานธุรกิจ "ดิไอคอนกรุ๊ป "นั้น มีบุคคลที่เหนือ "บอสพอล "อีก โดยล่าสุด จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม เครือข่าย "ธุรกิจดิไอคอน " ล็อตสอง อีกด้วย

 

แฟ้มภาพ จากข่าวข้นคนข่าว  เนชั่นทีวี

จากพยานหลักฐาน ทำให้เห็นความเชื่อมโยง "ดิไอคอนกรุ๊ป "เริ่มต้นขึ้น จากความสัมพันธ์ รู้จัก ระหว่าง "บอสพอล" กับ บุคคลท่านหนึ่ง ขอเป็น อักษรย่อ  "ป.อ." (ในที่นี้เราขอใช้คำว่า บิ๊กบอสแล้วกัน เพื่อให้เห็นว่า ยังมีบุคคลเหนือบอสพอล ผู้จุดไฟใส่ฝัน ให้ "บอสพอล" ดำเนินธุรกิจดังกล่าว ) โดย"บิ๊กบอส ป.อ." รายนี้ มีเครือข่ายธุรกิจอีกหลายบริษัทมีที่ดินมากมายหลายร้อยไร่     

"บิ๊กบอส ป.อ." ถือเป็นบุคคลกว้างขวางในหลากหลายวงการ  ทั้งแวดวงธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ รู้จักมักคุ้นศิลปินดารามากมาย จึงไม่แปลกที่จะมีความสามารถเชื่อมโยง กวาดต้อน ศิลปินดารา มาเป็นทั้งผู้บริหาร มาเป็นทั้งพรีเซนเตอร์ให้กับ"ดิไอคอน กรุ๊ป" 

ขณะที่ การก่อตั้ง "บริษัทดิไอคอน" เป็นที่ทราบตามที่ "เนชั่นทีวี"เคยเสนอข่าว มีผู้ถือหุ้น สามราย รายแรก "บอสพอล" ถือหุ้น 75 เปอร์เซนต์ รายที่สอง ซึ่งทราบกันโดยทั่วกันไปแล้ว  คือ มารดาแท้ๆ ของ"บอสพอล" นั่นเอง ถือหุ้น 21 เปอร์เซนต์  รายที่สาม คือ "บอสปัน" หรือ คนสนิทวงการธุรกิจ กับ "บอสพอล" ถือหุ้น  4 เปอร์เซนต์  

แฟ้มภาพ  จากทีมข่าวข้นคนข่าว

ก่อนหน้านี้ "เนชั่นทีวี" เคยนำเสนอไปแล้วว่า ว่า ผู้ถือหุ้นรายที่สอง คือมารดาของ "บอสพอล" ได้รับเงินปันผลจากธุรกิจนี้  36 ล้านบาท  ส่วน "บอสพอล" เราขอหยิบมานำเสนออีกครั้ง ในปี 2566  ปีเดียวกับที่ "มารดาบอสพอล"ได้รับเงินปันผล 36 ล้าน ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จึงได้รับเงินปันผลอู้ฟู้เกือบ 200 ล้านบาท

การแตกไลน์ธุรกิจ ด้วยการระดม ศิลปินดารา มาเป็นทั้งผู้บริหาร และพรีเซนเตอร์ จนได้รับการยกให้เป็น บอสโน้นบอสนี้ และถูกรวบตัวไปสอบสวนแล้ว 18 ราย จึงไม่ได้จบแค่นี้ เพราะล่าสุดจะมีการออกหมายจับล็อตสอง ในวันสองวันนี้อีกด้วย 

ในการทำธุรกิจที่สามารถหาประโยชน์ในลักษณะ ส่อฉ้อโกงประชาชน หาสมาชิกเข้ามามากๆ  แน่นอน ย่อมต้องหาเกราะกำบัง หรือ หายันต์สู้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมไทยไปแล้วที่ต้องรู้เท่าทันให้ได้ เพราะวิธีนี้ ก็เกิดขึ้นกับ"ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่จำเป็นต้องสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ กับเจ้าหน้าที่รัฐ  นักการเมือง ทำให้เวลาต่อมา จึงมีข้อมูลหลุดออกมาเป็นระยะ ๆ ถึงคลิปเสียงสนทนา บิ๊กขรก. อำนวยความสะดวกให้ "ดิไอคอน" บ้าง จนเป็นที่มาของคำว่า มี "เทวดาใน สคบ." บ้าง 

ข้อมูลวงใน ทราบว่า กรณีของ "ดิไอคอนกรุ๊ป" มีความคึกคักเมื่อปี 2565 เพราะมีหลากสารพัดเรื่องเข้ามา ทั้งการร้องเรียน การวิ่งเต้น ให้จบคดี  มีทั้งนักการเมืองอาศัยช่วงชุลมุน เสนอตัวเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ "ดิไอคอนกรุ๊ป"  อักษรย่อ ทั้งหลาย จึงอยู่ในข่ายข้อสงสัย  

 

ตอนนี้ กรณี "มีเทวดาที่สคบ."  ตามกระแสสื่อ ปรากฎอักษรย่อ  "ป."  ส่งผลให้ "ประเสริฐ จันทรรวงทอง"  รองนายกฯ และรมว.ดีอี ที่กำกับดูแล สคบ. ได้ลงนามตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเชิญบุคคลนอกเข้ามาเป็นกรรมการ อย่าง "นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์" อัยการอาวุโส ประธานสอบฯ  

แกะรอย \"ดิไอคอน กรุ๊ป\" เหนือ \"บอสพอล\" ยังมี \"บิ๊กบอส ป.อ.\" ( ชมคลิป ) แกะรอย \"ดิไอคอน กรุ๊ป\" เหนือ \"บอสพอล\" ยังมี \"บิ๊กบอส ป.อ.\" ( ชมคลิป )

กล่าวถึงประธานสอบท่านนี้ โปรไฟล์ไม่ธรรมดา  เคยอยู่ร่วมกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีเป็นข่าวสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคคลใน ตร. หรือกล่าวกันสั้นๆช่วงปมความขัดแย้ง "บิ๊กต่อ" กับ "บิ๊กโจ๊ก" นั่นเอง  ฉะนั้น จึงเชื่อฝีมือได้ 

"เนชั่นทีวี" รับทราบข้อมูลเชิงลึกอีกว่า กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามหา "เทวดาสคบ." จะจบลงที่ อักษรย่อ  "ป."  รายเดียวหรือไม่ เนื่องจากช่วงนั้นพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่รัฐ อีกหลายราย ส่อถึงการได้รับผลประโยชน์ จากธุรกิจที่มีลักษณะแชร์ลูกโซ่ให้รอดพันเงื้อมมือกฎหมาย  ถ้าจะบอกว่า มีการจัดหนักอัดเต็ม ก็คงไม่ผิดนัก 

ส่วนนักการเมือง  อักษรย่อ  "ส."  ตามที่ปรากฎในคลิปเสียง ไม่ได้ชี้ชัดว่าชื่อเต็มว่าอะไร แต่ที่แน่ๆในแวดวง สาธารณะ  ตอนนี้ มีความเคลื่อนไหวจากทนายตั้ม ที่ไปร้อง "พรรคพลังประชารัฐ" ร้องประธานสภาฯ รวมถึง "นายไพบูลย์  นิติตะวัน"  เลขาพรรคพปชร. ออกมาแถลงว่าจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุมพรรคพปชร. ขับ "นายสามารถ" ออกจากสมาชิกพรรค ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ อันนี้ก็ต้องไปว่ากันเองในพรรค  

 

ส่วนนักการเมืองอักษรย่อ  "ธ." นั้น  ดูจะยังไม่ถูกโฟกัสขณะนี้ ขณะที่เจ้าตัวใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว  จึงต้องติดตาม การทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถต่อจิ๊กซอว์ "ดิไอคอน" ซีรีย์สอง  นับจากนี้ จะสาวไปถึงใครได้มากน้อยแค่ไหน   

ในชั้นนี้ เราขอย้ำ ไม่ได้กล่าวหา "บิ๊กบอส ป.อ." กระทำผิดหรือไม่ แต่ต้องการนำเสนอให้เห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ขณะนี้ และติดตามความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบดำเนินคดี

 

ชมคลิป  >>>> ลากไส้"บอสตัวจริง"