svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สส.ชายแดนใต้"ประชาชาติ วอนรัฐ เหลือ 9 วัน ตามตัวจำเลย"คดีตากใบ"ดำเนินคดี

"สส.ชายแดนใต้ ประชาชาติ" แถลงความห่วงใยต่อความรู้สึกครอบครัวผู้ สูญเสียในคดีตากใบ วิงวอนรัฐบาล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เลือกอีก 9 วัน ตามตัวจำเลยทั้ง 7 กลับมาดำเนินคดี จี้ สตช.แถลงข่าวให้ทราบการติดตัว ยกสังคมสงสัยจดหมายส่งมาอย่างไร หวังเพื่อไทยชี้แจง

16 ตุลาคม 2567 "นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ" สส.พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย สส.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พรรคประชาชาติ แถลง ถึงความห่วงใยของพรรคประชาชาติ ต่อกรณีตากใบ และขอแสดงความจุดยืนความเป็นห่วง ในฐานะที่มีสส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด ว่า เข้าใจในความรู้สึก ของบรรดาประชาชนในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนของประเทศที่มีความห่วงใยที่ติดตามสถานการณ์ของคดีตากใบที่ได้ดำเนินการมาจะเข้าสู่ 20 ปีในอีกไม่กี่วันนี้

ทั้งนี้ หัวใจของ"พรรคประชาชาติ" มีความหนักแน่นในการเรียกร้องความยุติธรรมห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะผู้สูญเสีย เสียชีวิต 85 ราย ทุพพลภาพ 51 ราย และมีผู้ถูกคุมตัว กว่า 1,280 ราย พรรคประชาชาติขอเน้นย้ำว่าความห่วงใยที่ประชาชนมีมาให้ทางพรรคนั้นได้เป็นกำลังในการขับเคลื่อนทั้งการเมืองในเวทีรัฐสภาและใช้อำนาจบริหารในการเรียกร้องไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม ด้วยศักยภาพและความสามารถอย่างถึงที่สุด พรรคประชาชาติขอเรียกร้องให้บรรดาจำเลยทั้ง 7 คนและผู้ต้องหาทั้ง 7 คนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อทำให้ความจริงปรากฏ ในการจรรโลงความยุติธรรมที่สังคมเพียรหาให้ลุล่วงไปด้วย

โดย "นายกมลศักดิ์" กล่าวว่า ความห่วงใยของพรรคประชาชาติ ที่ยังเหลืออีก 9 วันก็ครบ 20 ปีพรรคประชาชาติไม่ได้ละเลยและทอดทิ้งกับเรื่องเหล่านี้เรายังติดตาม กระบวนการยุติธรรมกระบวนการพิจารณาคดีมาโดยตลอด สิ่งที่เราจะเรียกร้อง แม้ว่าเราจะอยู่ร่วมรัฐบาล แต่อยากเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้า ซึ่งในวันที่ 15 ตุลาคมศาลจังหวัดนราธิวาสได้มีนัดสอบคำให้การจำเลย แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 7 คนที่มีหมายจับไม่มีใครเดินทางไปศาล แต่ศาลยังไม่ได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลจังหวัดนราธิวาส ยังมีนัดสอบคำให้การจำเลยอีกครั้งในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ แต่อายุความของคดีตากใบมีถึงแค่วันที่ 25 ตุลาคม จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าในการติดตามคดีนี้ ศาลจังหวัดนราธิวาสมีความห่วงใยส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าของการปฏิบัติตามหมายจับไปที่หน่วยงานที่ศาลมีคำสั่งให้ปฏิบัติตามหมายจับ

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าศาล ก็อยากให้กระบวนการยุติธรรมตรงนี้ไปต่อจึงขอวิงวอนให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้า ในการติดตามจับกุมจำเลยผู้ต้องหาไปถึงไหนบ้าง ให้สังคมได้รับทราบได้รับรู้และขอวิงวอนอย่านำประเด็นที่ใกล้ขาดอายุความโยนความผิดให้กับประชาชนที่เรียกร้องความยุติธรรม แม้หลายคนพยายามโยงว่า ทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนที่คดีจะขาดอายุความ เพราะคดีตากใบได้รับเงินเยียวยาไปแล้วในปี 2556 จึงขอชี้แจงว่า การเยียวยาที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้ทำให้คดีอาญาถูกระงับ ดังนั้นจึงสามารถเรียกร้องสิทธิ์ทางอาญาได้ 

"ระยะเวลาที่เหลือ 9 วันพรรคประชาชาติมีความห่วงใยในฐานะที่อยู่ในพื้นที่อยากให้กระบวนการยุติธรรม อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำตัวจำเลยและผู้ต้องหา หรือจำเลยหรือผู้ต้องหาที่ฟังอยู่ ก็สามารถไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่าน ไม่ได้หมายความว่าศาลประทับ ฟ้องแล้ว ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ท่านจะเป็นผู้กระทำความผิดแต่อยากให้ท่านเดินหน้า ผดุงความยุติธรรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าก่อให้เกิดเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ เราเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่จากอดีต ปัจจุบัน ถึงอนาคต ที่จะกลายเป็นเงื่อนไขใหม่กับกรณีคดีตากใบ"นายกมลศักดิ์กล่าว

ส่วนหากจำเลยทั้งหมดไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทางรัฐบาลก็ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะติดตามตัวกลับมา หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ 
\"สส.ชายแดนใต้\"ประชาชาติ วอนรัฐ เหลือ 9 วัน ตามตัวจำเลย\"คดีตากใบ\"ดำเนินคดี

"นายกมลศักดิ์"  กล่าวว่านี่คือสิ่งที่พรรคประชาชาติเป็นห่วง สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้คืออยากเห็นหน่วยงานที่รับผิดชอบแถลงข่าวให้ชัดเจนว่าการติดตามจับกุมไปถึงไหนอย่างไรเราในฐานะที่เป็นพรรคประชาชาติถ้าหลังจากวันที่ 25 ตุลาคมนี้ไม่สามารถที่จะจับกุมอะไรได้เลย และศาลก็ไม่สามารถสืบพยานได้อัยการไม่สามารถส่งฟ้องได้เราเป็นห่วงสถานการณ์ในฐานะพรรคประชาชาติ

ขณะที่ "พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง" ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้ประสานงานให้มีการติดตามจับกุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่เป็นการทวงถามฝ่ายเดียว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวถึงความคืบหน้า ในเรื่องนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบ

"นายกมลศักดิ์" ยังกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่าเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ไม่ขอก้าวก่าย แต่ระบุว่ามีประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยซึ่งต้องมีการชี้แจงต่อสังคมไม่เข้าใจว่าหนังสือลาออกส่งมาได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวตอนที่อยู่สภา ไม่ค่อยได้เจอพลเอกพิศาล เนื่องจากอยู่คนละกรรมาธิการ แต่อาจจะมีการเดินสวนทางกันในห้องประชุมแต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว