svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ทนาย "บิ๊กแจ๊ส" โต้ปมยกฟ้อง "ลุงชาญ" ไม่จริง ศาลตัดสิน 17 ก.ย.นี้

ทนาย "บิ๊กแจ๊ส" แจงศาลปกครองชี้ "ลุงชาญ" ผิดต้องชดใช้เงินคดีเครื่องออกกำลังกาย 44 ล้านบาท ไม่เชื่อกระบวนการเลื่อนศาลพิจารณาคดีทุจริตจะทำได้ ศาลตัดสิน 17 ก.ย.นี้

วันที่ 10 กันยายน 2567 พันเอก ปณต เขตต์สันเทียะ ทนายทีมกฎมาย พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี ได้ให้ความเห็นและวิเคราะห์ กรณีกระแสข่าวที่ผิดและบิดเบือน ทำให้ประชาชนคิดว่า จะมีการพิพากษา ยกฟ้องทุกคดีของ "นายชาญ พวงเพ็ชร์" ฟ้อง อบจ.ปทุม ยกเลิกคำสั่งใช้เงินคืน 44 ล้าน ที่ศาลปกครองเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ประชาชนมีความสับสนในเรื่องของข่าว ว่า คดีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ถูกดำเนินคดีที่ศาลทุจริตภาค1 ซึ่งจะตัดสินในวันที่ 17 กันยายนนี้ ถูกยกฟ้องแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง 

โดย พันเอก ปณต เขตต์สันเทียะ กล่าวว่า เท่าที่ผมตามข่าวเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ศาลปกครองได้มีการออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ท่านได้แถลงความเห็นในคดีว่าอย่างไร เท่าที่ทราบคดีนี้ เป็นคดีที่ซึ่งอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ถูก สตง.ชี้มูล กรณีเครื่องออกกำลังกายมีราคาสูงเกินกว่าความจริง ประมาณ 44 ล้านที่ต้องรับผิดชอบ 

 

ปรากฎว่าท่านนั้นถูกคำสั่งจาก สตง. คนที่มีอำนาจอยู่ในปัจจุบัน เป็นเจ้าพนักงานทำละเมิดตามความเห็นของ สตง. ซึ่งความเห็นของ สตง.ก็เป็นส่วนหนึ่งในการส่งให้ ปปช.พิจารณาสืบสวนสอบสวนตามกฎหมาย แต่ที่มีข่าวออกไปว่ายกฟ้อง คือเป็นการยกฟ้องคำฟ้องของผู้ที่จะต้องรับผิดชอบเป็นจำนวนเงิน 44 ล้าน 

 

ไม่ใช่ว่ายกฟ้องว่าเขาไม่ผิด แต่ยกฟ้องเพราะเขาผิดแล้วเขาไปฟ้องต่อศาลปกครองว่าเขาไม่ผิดไม่ต้องรับผิดชอบ ศาลบอกว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นความผิด เขาจึงต้องรับผิดชอบ 

 

เท่าที่ทราบว่าเขาจะต่อสู้ในเรื่องของอายุความ ซึ่งอายุความก็ยังไม่ขาดอายุความ ยังอยู่ในอายุความ ก็เป็นการต่อสู้ในส่วนของผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ศาลก็มีความเห็นเบื้องต้นเอาผิด จึงแถลงคดี 
 

แต่สุดท้ายศาลก็ต้องมีคำพิพากษาออกมาอีกที ในวันที่ 24 หรือ 25 กันยายนนี้ 

 

แต่ตอนนี้เป็นความเห็นของผู้พิพากษาแถลงคดี เท่าที่ผมทราบจากข่าว คือเขาผิด และเขาต้องรับผิดชอบ 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาของศาลศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ตรงนี้ท่านมองเป็นอย่างไรบ้าง 

พันเอก ปณต เขตต์สันเทียะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาศาลเคยบอกว่าตัดพยาน คือ ไม่มีการสืบพยานโจทย์ จำเลย จาก 3 วัน เหลือ 2 วันนั้น เพราะว่าในสำนวนพอแล้ว สามารถพิจารณาได้แล้ว วันที่ 17 ก.ย.นี้ ก็คงมีคำพิพากษาออกมาเลย ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ถ้ากระทำความผิดตามฟ้อง ศาลก็พิจารณาทำโทษตามกฎหมาย 

 

แต่ถ้าพยานหลักฐานฟังแล้วไม่มีความผิดตามฟ้อง ด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ ศาลก็อาจจะพิพากษายกฟ้องได้ทั้ง 2 กรณี แต่ไม่ว่าจะเป็นยกฟ้องหรือลงโทษ ปปช.คู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้อยู่แล้ว 

 

ซึ่งถ้าวันที่ 17 ก.ย.นี้ ไม่มีคำพิพากษา จะต้องมีเหตุผลพอที่จะเลื่อนหรือไม่นั้น การพิจารณาคดีอาญาต้องทำต่อหน้าจำเลย เว้นแต่มีเหตุจำเป็นว่า จำเลยมีเหตุมาศาลไม่ได้ ด้วยมีเหตุเจ็บป่วย ก็อาจจะมายื่นคำร้องขอศาลพิพากษา แต่ก็อยู่ในดุลพินิจของผู้พิพากษา ว่ามีเหตุจะให้เลื่อนการพิจารณาไปจากการอ่านคำพิพากษาก็ได้ 

 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่จะมีการเลื่อนพิจารณาคดีทุจริตในวันที่ 17 ก.ย. ออกไป จะเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ที่เกี่ยวกับการวิ่งเต้น โดยมีผู้ใหญ่ของจังหวัดสระบุรีท่านหนึ่ง ใช้เงินที่มียอดเงินสูงถึง 40 ล้านบาท จะเกี่ยวข้องเป็นไปได้หรือไม่ 

 

พันเอก ปณต เขตต์สันเทียะ ตอบว่า ผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้ น่าจะเป็นข่าวลือ หรือการปล่อยข่าวให้เป็นกระแสที่ไปพูดกันเอง ความยุติธรรมเมื่อมาถึงศาลแล้ว ผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้ อย่าว่าแต่ 40 ล้านบาท แม้แต่เงินล้าน 2 ล้านบาท มันเยอะ ต้องมีที่มาที่ไป ถ้ามีเรื่องอย่างนี้ ต้องรู้แล้วว่าใครรับเงินหรือไม่รับเงิน หรือมีการใช้เงินตรงนี้ ก็มีแต่ข่าว

 

แต่ผมเชื่อมั่นในความยุติธรรม และในความเป็นศาล โดยเฉพาะศาลทุจริต เป็นเหมือนศาลพิเศษ ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานโดยเฉพาะ