svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“จริยธรรม” ตามหลอน “ครม.อิ๊งค์” บางคนทำมึน-ความจำสั้น-กลืนน้ำลายตัวเอง?

“จริยธรรม” ตามหลอนตั้ง “ครม.อิ๊งค์” บางคนทำมึน- ความจำสั้น-กลืนน้ำลายตัวเอง? เตือน ส่งชื่อ รมต. ไม่ผ่านมติกก.บห.พรรค เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม 

เรื่องมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในการตั้ง ครม.ชุดใหม่กันอยู่ในขณะนี้ มี 2 เรื่องซ้อนกันอยู่ 

หนึ่ง คือ จริยธรรมจริงๆ ที่เรียกว่า “มาตรฐานจริยธรรม” ยกร่างโดยศาลรัฐธรรมนูญ ใช้บังคับกับ สส. สว. และรัฐมนตรีด้วย แต่เดิมมองกันว่าเรื่องนี้เป็นนามธรรม หาบรรทัดฐานยาก แต่ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้วางบรรทัดฐานเอาไว้ในคดีสอยนายกฯเศรษฐา ปรากฏว่า มาตรฐานจริยธรรมกินความกว้างมาก จนทำให้การตั้งรัฐมนตรีทำได้ยากมากๆ เช่นกัน 

แต่ “จริยธรรม” ในแบบที่ว่านี้ ว่าที่รัฐมนตรีบางคนอาจจะรอดไปได้ แต่ยังมี “จริยธรรม” อีกอย่าง เรียกว่า “จริยธรรม - ทำมึน” เป็น “จริยธรรม” แบบที่สอง ที่ศาลยังไม่ได้วางบรรทัดฐาน แต่ประชาชนจำได้ว่านักการเมืองพูดอะไรไว้ 

“จริยธรรม” ตามหลอน “ครม.อิ๊งค์” บางคนทำมึน-ความจำสั้น-กลืนน้ำลายตัวเอง?

ยกตัวอย่าง หากจำกันได้ก่อนการเลือกตั้ง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยประกาศเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตหากประชาธิปัติย์ได้ สส.น้อยกว่าเดิม คือ 51 เสียง และปรากฏว่าได้ สส.มาจริงไม่ถึงครึ่ง แต่เจ้าตัวนอกจากไม่เลิกเล่นการเมืองตามประกาศแล้ว ยังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ล่าสุดยังเตรียมแต่งตัวเป็นรัฐมนตรีด้วย 

แบบนี้อาจจะไม่ใช่ “จริยธรรม” ในความหมายของ “ธรรมะ” ที่ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบได้ แต่น่าจะเป็น “จริยธรรม - ทำมึน” ที่นักการเมืองบางคนอาจคิดว่าประชาชนกินหญ้า ไม่ได้กินข้าวเป็นอาหาร ก็เลยจำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จึงตัดสินใจทางการเมืองโดยไม่ต้องสนใจว่าเคยประกาศอะไรในอดีตเมื่อไม่นานมานี้เอง 

“จริยธรรม” ตามหลอน “ครม.อิ๊งค์” บางคนทำมึน-ความจำสั้น-กลืนน้ำลายตัวเอง?

ต้องให้ความเป็นธรรมว่า “จริยธรรม-ทำมึน” แบบนี้ ไม่ได้มีแต่ “เสี่ยต่อ” แต่ยังมีอีกหลายคน หลายพรรคที่เล่นบท “ตีมึน - กลืนน้ำลายตัวเอง” อาทิเช่น 

1.กปปส. เคยขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐบาลเพื่อไทย และตระกูลชินวัตร วันนี้แกนนำ กปปส. บางคน กำลังจะเข้าไปเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเพื่อไทย 

2.ประชาธิปัตย์ เคยเป็นคู่ต่อสู้ถาวร และศัตรูการเมืองแบบ “น้ำกับน้ำมัน” ของพรรคชินวัตร ถึงขั้นอภิปราย “ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่” 

วันนี้ประชาธิปัตย์กำลังจะเข้าร่วมรัฐบาลครั้งแรกกับเพื่อไทย และอาจเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลายคนเชื่อว่า จะกลายเป็นพรรคต่ำสิบ หรือ “พรรคหลักหน่วย” ขณะที่แกนนำบางคน อาจถูกย้อนเกล็ดด้วยวลีที่ว่า “ระวังไม่มีพรรคอยู่” 

“จริยธรรม” ตามหลอน “ครม.อิ๊งค์” บางคนทำมึน-ความจำสั้น-กลืนน้ำลายตัวเอง?

“จริยธรรม-ทำมึน” ส่งชื่อ รมต.ไม่ผ่านที่ประชุมพรรค

เรื่อง “จริยธรรม - ทำมึน” ยังไม่จบ โดยเฉพาะแกนนำพรรคออกมาเล่นบท “ตีมึน” ตอนตอบคำถามนักข่าวว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยหรือไม่ ทำนองว่า พรรคเก่าแก่มีประเพณี มีระเบียบข้อบังคับพรรคเป็นใหญ่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องส่งเทียบเชิญมาก่อน จากนั้นจึงนำเรื่องเข้าขอมติในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ถึงจะตอบได้ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ 

แม้ “เสี่ยต่อ - เฉลิมชัย” จะออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ แต่ก็มีข่าวว่ามีการส่งชื่อไปตรวจคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว มี 2 ชื่อด้วยกัน คือ 

  • “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย เตรียมดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 
  • “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เตรียมนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วย กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง

คำถามคือ เมื่อยังไม่มีเทียบเชิญ ยังไม่มติพรรคให้เข้าร่วมรัฐบาล การส่งชื่อโดยไม่ผ่านกรรมการบริหารพรรค ถือว่าผิดกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับพรรคอะไรหรือไม่ 

เพราะดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐที่แตกออกเป็น 2 เสี่ยง ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน คือมีการส่งโผรายชื่อรัฐมนตรีไปอย่างน้อย 2 โผ ให้พรรคแกนนำ 

ประเด็นนี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ออกมายอม ว่า รายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีที่ส่งมา มีเยอะกว่าตำแหน่งที่จะตั้งได้ แปลว่าต้องมีบางพรรค ส่งหลายโผ หรือส่งเกิน ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีรายการ “แอบส่ง” โดยไม่ผ่านมติพรรค

สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง

เตือนงุบงิบส่งชื่อ รมต.เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม 

ล่าสุด สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก เตือนว่า พฤติกรรมแอบติดต่อกับพรรคแกนนำรัฐบาล เสนอชื่อใครต่อใครร่วมรัฐบาล โดยกรรมการบริหารพรรคไม่ได้ให้ความเห็นชอบ และอ้างว่าตัวเองมีเสียง สส. ในมือเท่าโน้นเท่านี้ เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรี โปรดระวัง

1.อาจมีผู้ไปร้องต่อ ป.ป.ช. ว่า ท่านทำผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง ในเรื่องการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง และฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว นำไปสู่การถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต

2.ผู้บริหารพรรคการเมืองที่รับผู้ที่รู้ หรือสมควรรู้ว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ขัดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง อาจถูกรางวัลใหญ่ตามไปด้วย